Ntsuab-Ci
In love with Phet Thakrit <3
Looks like Kem and Mookda are confirmed!
Thai spelling is: โซ่เวรี
http://instagr.am/p/BznkC_aAn_-/
http://instagr.am/p/Bzh-yPPF_vV/ c as tagged
Summary in Thai if anyone wants to translate, it'd be greatly appreciated!
"สองครอบครัว ในธุรกิจโรงแรมระดับประเทศ แก่งแย่งแข่งขันกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ จากมิตรกลายเป็นศัตรู
ปรินทร์ไม่เคยรู้ว่าตนจะเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล เมื่อบิดาของเขาเป็นเพียงเขยแห่งสิริมันตรา และมารดาเป็นเมียเก็บที่ถูกทอดทิ้งไว้ที่อเมริกา จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่ม คำว่า "พ่อ" จึงไม่ใช่คำที่เขาคุ้นเคย
ปารมิตา ทายาทเพียงคนเดียวของดิเอ็มเพอเรอร์ ถูกดึงเข้าสู่วังวนแห่งความขัดแย้ง เมื่อเธอถูกวางยาและส่งตัวไปให้เขา เพื่อแลกกับเงินก้อนโต
สี่ปีต่อมา เธอกลับเมืองไทยมาพร้อมเด็กฝาแฝดชายหญิง...ที่บอกกล่าวกับสังคมว่าเป็นเพียงน้องของเธอเท่านั้น เธอกับปรินทร์พบกันอีกครั้ง เมื่อต่างยืนอยู่ข้างฝ่ายของตนเอง และต้องการแก้แค้นในสิ่งที่เขาทำกับเธอ แผนการทุกอย่างจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีโซ่เล็กๆ คล้องทั้งสองเอาไว้ มิใช่โซ่แห่งรัก แต่คือโซ่ที่คล้องศัตรูทั้งสองเข้าด้วยกันโดยไม่เต็มใจ!"
c: goodreads
I also found one that seems longer on Pantip.
I'm very surprised Mookda is gonna be filming two lakorns cause she's still in school! That probably means she's close or is done filming Maturot Logan with Michael and maybe graduating soon? Omg. I always enjoy hearing more work from her! & hoping to see ML soon!
Thai spelling is: โซ่เวรี
http://instagr.am/p/BznkC_aAn_-/
http://instagr.am/p/Bzh-yPPF_vV/ c as tagged
Summary in Thai if anyone wants to translate, it'd be greatly appreciated!
"สองครอบครัว ในธุรกิจโรงแรมระดับประเทศ แก่งแย่งแข่งขันกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ จากมิตรกลายเป็นศัตรู
ปรินทร์ไม่เคยรู้ว่าตนจะเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล เมื่อบิดาของเขาเป็นเพียงเขยแห่งสิริมันตรา และมารดาเป็นเมียเก็บที่ถูกทอดทิ้งไว้ที่อเมริกา จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่ม คำว่า "พ่อ" จึงไม่ใช่คำที่เขาคุ้นเคย
ปารมิตา ทายาทเพียงคนเดียวของดิเอ็มเพอเรอร์ ถูกดึงเข้าสู่วังวนแห่งความขัดแย้ง เมื่อเธอถูกวางยาและส่งตัวไปให้เขา เพื่อแลกกับเงินก้อนโต
สี่ปีต่อมา เธอกลับเมืองไทยมาพร้อมเด็กฝาแฝดชายหญิง...ที่บอกกล่าวกับสังคมว่าเป็นเพียงน้องของเธอเท่านั้น เธอกับปรินทร์พบกันอีกครั้ง เมื่อต่างยืนอยู่ข้างฝ่ายของตนเอง และต้องการแก้แค้นในสิ่งที่เขาทำกับเธอ แผนการทุกอย่างจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีโซ่เล็กๆ คล้องทั้งสองเอาไว้ มิใช่โซ่แห่งรัก แต่คือโซ่ที่คล้องศัตรูทั้งสองเข้าด้วยกันโดยไม่เต็มใจ!"
c: goodreads
I also found one that seems longer on Pantip.
"ปารมิตา เป็นลูกสาวคนเดียวของ ปรมินทร์ ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ขอเครือบริษัท ดิเอ็มเพอเรอร์กรุ๊ป ที่ทำธุรกิจโรงแรมระดับต้นๆ เมื่อเรียนจบก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ เลยไปฉลองกับเพื่อนที่โรงแรมในเครือ ระหว่างที่เต้นรำกับเพื่อนก็มีหนุ่มหล่อมาสนใจ ทำให้ นภาสิริ ที่เป็นนางแบบและอิจฉาปารมิตามานาน แอบไปหลอกขายเพื่อน (?) ปารมิตาเสียทีจากการโดนวางยาและเมื่อรู้ตัวก็รีบหนี เมื่อไปเรียนต่อที่นิวยอร์กโดยอาศัยกับน้า วาสินี ก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์และคลอดลูกแฝด ปารีณา และ ปารนัท จึงยกให้เป็นลูกบุญธรรมของน้า
หนุ่มต้นเรื่องคือ ปรินทร์ ลูกชายนอกสมรสของ ชัชชัย ผู้บริหารบริษัทสิริมันตรากรุ๊ปที่เป็นศัตรูโดยตรงของดิเอ็มเพอเรอร์กรุ๊ปตั้งแต่รุ่นปู่ นันทิมา ภรรยาหลวงของชัชชัยคือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสิริมันตรากรุ๊ป ทั้งคู่มีลูกคนเดียวคือ ชนาธิป ที่ไม่เอาถ่านเท่าไหร่ (แถมโดนนภาสิริจับเป็นแฟนอีก) ปรินทร์เกิดและโตที่นิวเยอร์คกับแม่ ได้แสดงฝีมือเป็นผู้จัดการสนามกอร์ฟและรีสอร์ทในฟลอริดาอย่างดีเยี่ยม เลยโดนพ่อขอให้มาเป็นรองประธานฝ่ายการตลาดโดยไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นลูก เรื่องเกิดเมื่อเพิ่งเดินทางมาถึงไทยและลองไปใช้บริการคู่แข่ง ภายหลังปรินทร์ก็พยายามหาปารมิตาแต่ไม่พบเพราะไม่รู้จักชื่อหรือข้อมูลอะไรเลย (นภาสิริปฏิเสธทุกข้อหา)
สี่ปีให้หลัง ปารมิตาเดินทางกลับไทยโดยนำลูกทั้งสองที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นน้องมาเลี้ยงด้วย โดยได้เป็นผู้อำนวยการสายพัฒนาและบริหารโครงการของดิเอ็มเพอเรอร์ที่กำลังลำบากเพราะโดนสิริมันตรากดดันอย่างหนักจากฝีมือของปรินทร์ จากการทำงานที่เป็นคู่แข่งกันทำให้ปารมิตาเจอกับปรินทร์ ปรินทร์ดีใจที่เจอปารมิตา แต่ปารมิตากลับหลอกใช้ความไว้วางใจของปรินทร์ทำให้เธอชนะในการเจรจางาน ทำให้ปรินทร์รู้สึกผิดหวังในการกระทำของปารมิตา เลยแก้แค้นเธอด้วยการ... ก่อนจะตัดใจจากปารมิตากลับไปอเมริกา
พอกลับไปอเมริกา ปรินทร์ถึงเพิ่งรู้ว่าคู่แฝดเป็นลูกของตัวเอง เพราะแม่ของปรินทร์เป็นคนช่วยดูแลปารมิตาช่วงที่คลอดลูก พอเป็นรูปปารมิตาในคอมก็จำได้เลยบอกลูกชายว่าคนนี้เป็นแม่คู่แฝด ปรินทร์เลยเล่าความสัมพันธ์ของเค้าและปารมิตาให้แม่ฟัง ปรินทร์ก็กลับไปไทยอีกครั้งเพื่อคุยกับปารมิตาให้รู้เรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจกัน และก็ได้รู้ว่าปารมิตากำลังตั้งครรภ์อีกครั้ง (เรียกว่าคู่นี้เปิดปุ๊บติดปั๊บตลอด) พอเข้าใจกันแล้วก็เลยช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค จนสามารถอยู่ด้วยกันได้ในที่สุด"
หนุ่มต้นเรื่องคือ ปรินทร์ ลูกชายนอกสมรสของ ชัชชัย ผู้บริหารบริษัทสิริมันตรากรุ๊ปที่เป็นศัตรูโดยตรงของดิเอ็มเพอเรอร์กรุ๊ปตั้งแต่รุ่นปู่ นันทิมา ภรรยาหลวงของชัชชัยคือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสิริมันตรากรุ๊ป ทั้งคู่มีลูกคนเดียวคือ ชนาธิป ที่ไม่เอาถ่านเท่าไหร่ (แถมโดนนภาสิริจับเป็นแฟนอีก) ปรินทร์เกิดและโตที่นิวเยอร์คกับแม่ ได้แสดงฝีมือเป็นผู้จัดการสนามกอร์ฟและรีสอร์ทในฟลอริดาอย่างดีเยี่ยม เลยโดนพ่อขอให้มาเป็นรองประธานฝ่ายการตลาดโดยไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นลูก เรื่องเกิดเมื่อเพิ่งเดินทางมาถึงไทยและลองไปใช้บริการคู่แข่ง ภายหลังปรินทร์ก็พยายามหาปารมิตาแต่ไม่พบเพราะไม่รู้จักชื่อหรือข้อมูลอะไรเลย (นภาสิริปฏิเสธทุกข้อหา)
สี่ปีให้หลัง ปารมิตาเดินทางกลับไทยโดยนำลูกทั้งสองที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นน้องมาเลี้ยงด้วย โดยได้เป็นผู้อำนวยการสายพัฒนาและบริหารโครงการของดิเอ็มเพอเรอร์ที่กำลังลำบากเพราะโดนสิริมันตรากดดันอย่างหนักจากฝีมือของปรินทร์ จากการทำงานที่เป็นคู่แข่งกันทำให้ปารมิตาเจอกับปรินทร์ ปรินทร์ดีใจที่เจอปารมิตา แต่ปารมิตากลับหลอกใช้ความไว้วางใจของปรินทร์ทำให้เธอชนะในการเจรจางาน ทำให้ปรินทร์รู้สึกผิดหวังในการกระทำของปารมิตา เลยแก้แค้นเธอด้วยการ... ก่อนจะตัดใจจากปารมิตากลับไปอเมริกา
พอกลับไปอเมริกา ปรินทร์ถึงเพิ่งรู้ว่าคู่แฝดเป็นลูกของตัวเอง เพราะแม่ของปรินทร์เป็นคนช่วยดูแลปารมิตาช่วงที่คลอดลูก พอเป็นรูปปารมิตาในคอมก็จำได้เลยบอกลูกชายว่าคนนี้เป็นแม่คู่แฝด ปรินทร์เลยเล่าความสัมพันธ์ของเค้าและปารมิตาให้แม่ฟัง ปรินทร์ก็กลับไปไทยอีกครั้งเพื่อคุยกับปารมิตาให้รู้เรื่อง ในที่สุดก็เข้าใจกัน และก็ได้รู้ว่าปารมิตากำลังตั้งครรภ์อีกครั้ง (เรียกว่าคู่นี้เปิดปุ๊บติดปั๊บตลอด) พอเข้าใจกันแล้วก็เลยช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค จนสามารถอยู่ด้วยกันได้ในที่สุด"
I'm very surprised Mookda is gonna be filming two lakorns cause she's still in school! That probably means she's close or is done filming Maturot Logan with Michael and maybe graduating soon? Omg. I always enjoy hearing more work from her! & hoping to see ML soon!