[Ch3] Khun Seuk(Tv Scene)

yer_moua

sarNie Hatchling
เรื่องย่อจบบริบูรณ์ แนะนำตัวละคร “ขุนศึก”



“ขุนศึก”

บทประพันธ์ : ไม้เมืองเดิม - สุมทุม บุญเกื้อ
บทโทรทัศน์ : เอกลิขิต
กำกับการแสดง : อดุลย์ บุญบุตร
ผลิตโดย : บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด โดยณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
แนวละคร : ดราม่า - อิงประวัติศาสตร์
ออกอากาศ : จันทร์-อังคาร เวลา 20.30 ทาง ช่อง 3
ระยะเวลาออกอากาศ : จันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ 2555 -
จำนวนตอน : -

ณ ปี พ.ศ. ๒๑๒๗ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ธนากร โปษยานนท์) ซึ่งในตอนนั้นยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า ยังไม่ได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ได้หลั่งอุทกธาราประกาศเอกราชให้ชาติไทยไม่ขึ้นต่อกรุงหงสาวดีอีกต่อไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกึกก้องของกองทัพไทย และความดีใจของคนไทยที่ไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นอีกต่อไป

เสมา (อธิชาติ ชุมนานนท์) ลูกชาย มั่น (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ช่างตีเหล็ก ซึ่งปรารถนาจะใช้วิชาความรู้ในเชิงรบที่ได้ร่ำเรียนมารักษาแผ่นดินเกิดไว้

มั่นเห็นลูกชายมีความตั้งใจจริง และฝีมือในเชิงรบโดยเฉพาะดาบสองมือก็ไม่เป็นสองรองใคร มั่นจึงพาเสมาไปฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมของ พันอินทราช (สรพงศ์ ชาตรี) เพื่อนสนิทของมั่น พันอินเห็นเสมามีหน่วยก้านดี และเป็นศิษย์เอกของ พระครูขุน (อิทธิฤทธิ์ สิงหรัตน์) ภิกษุแห่งวัดพุทไธสวรรย์ ซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพกองอาทมาตที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เลยพาเสมาไปฝากกับ ขุนรามเดชะ (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนและเจ้านายของพันอิน ซึ่งมีหน้าที่รับและฝึกสอนทหารใหม่

ขุนรามต้องการทดสอบฝีมือเสมา เลยให้ประลองดาบสองมือกับ ขัน (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) หัวหน้าที่ฝีมือดีที่สุดแต่ขันประมาทเลยแพ้จึงทำให้ขันเจ็บใจว่าตนสู้เสมาไม่ได้ ขันเลยอิจฉาเสมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เอง ทำให้เสมาได้เจอกับ เรไร (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ลูกสาวคนสวยของขุนราม ซึ่งเป็นนางข้าหลวงอยู่ในวังแต่กลับมาเยี่ยมลำภู (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) มารดาที่ไม่สบายพอดี เสมาหลงรักเรไรตั้งแต่แรกพบ เช่นเดียวกับที่เรไรก็แอบชอบเสมาเช่นกัน

จนวันที่เสมาได้รับเครื่องแบบทหาร ทั้งคู่จึงได้เจอกันอีกครั้ง ในขณะที่เรไรกำลังเก็บดอกจำปีอยู่เสมาเก็บได้ เสมาขอดอกจำปีดอกนั้นเอาไว้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของตน

ซึ่งขันได้เข้ามาเห็นพอดี เลยรู้ว่าเรไรผู้หญิงที่ตนแอบชอบอยู่มีใจให้เสมา ทำให้ยิ่งริษยาเสมาหนักขึ้น แต่ สมบุญ (เกียรติกมล ล่าทา) ทาสของขุนรามซึ่งนับถือเสมาตั้งแต่วันที่ทดสอบดาบกับขัน ได้เอาแผนการของขันมาบอกเสมา เสมาโมโหเลยไปท้าดวลดาบกับขัน ขุนรามกลับมาเห็นเข้าเลยไม่พอใจ เพราะการกระทำของเสมาเหมือนกับการกระด้างกระเดื่องกับผู้บังคับบัญชา

ขุนรามเลยสั่งจำคุกเสมาเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอน เรไรสงสารเสมาเลยแอบมาเยี่ยม เสมาดีใจที่เรไรมีใจให้ตน เรไรบอกเสมาให้ขยันหมั่นเพียรสร้างเนื้อสร้างตัว ภายภาคหน้าจะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่น้อยหน้าคนอื่น เสมารับปากและมีเรไรเป็นกำลังใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พอครบกำหนดโทษออกมา ก็เกิดศึกพระเจ้าเชียงใหม่ทัพมา ทำให้เสมาได้เข้าสู่สมรภูมิการรบเป็นครั้งแรก พอถึงเวลาไปศึก เรไรเป็นห่วงเสมากลัวจะเป็นอันตราย เลยถอดแหวนทองของตนมอบให้เสมาเพื่อเป็นกำลังใจ เสมาดีใจมากและสัญญาว่าจะเอาแหวนวงนี้กลับมา คืนให้เรไรให้ได้

ศึกที่ 1
พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ได้ให้ พระเจ้าเชียงใหม่ กับ พระยาพสิม ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวร กับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ยกกองทัพเข้าต่อสู้ โดยเสมา ขัน สมบุญ ขุนราม อยู่ในกองทัพของ พระราชมนู แม่ทัพของสมเด็จพระนเรศวร เสมากับขันได้ท้าทายกัน ว่าใครจะตัดหัวขุนศึกฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่ากัน ขันแกล้งไม่ยกทัพเข้าช่วยเสมา ทำให้เสมาต้องถูกคู่ต่อสู้รุมตี แต่เสมาก็เอาตัวรอดพาทหารหักฝ่ามาได้ ในขณะที่ขันไปเจอกองทัพใหญ่ของคู่ต่อสู้ เลยถูกตีจนเกือบตาย เสมาพาทหารบุกเข้าไปช่วยขันกับลูกน้องออกมาได้ แถมยังตัดหัวขุนพลของข้าศึกได้อีกต่างหาก แต่เสมาไม่รู้ว่า ที่ต้องเอาผ้าโพกหัวของข้าศึกไปเป็นหลักฐานยืนยันความดีความชอบ ขันเลยเอาผ้าโพกหัวของขุนพลพม่ากลับไปรับความดีความชอบแทน
เสร็จศึก พระเจ้าเชียงใหม่พ่ายแพ้กลับไป เสมาได้กลับมาและเอาแหวนทองของเรไรมาคืน และตนจะพยายามก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตให้ได้ เพื่อที่เรไรจะได้ไม่น้อยหน้าใคร เรไรปลื้มใจที่เสมารักตน โดยหลังจากศึกครั้งนี้เสมาขึ้นเป็นหัวหมู่โดยมีสมบุญเป็นศิษย์เอกคอยฝึกหัดทหาร แต่ขันได้ตำแหน่งเป็น พันฤทธิ์รณรบ และได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่ดีขึ้น แต่ขันก็ยังริษยาเสมาอยู่ตลอด เลยวางแผนจีบ จำเรียง น้องสาวของเสมา จำเรียงหลงขันมากและยิ่ง บุญเรือน แม่ของตนเห็นดีเห็นงามด้วย ขันก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งเสมาตลอดแถมยังเอาเรื่องที่เสมาจีบเรไรไปนินทา จนเสมาเป็นตัวตลกเหมือนหมาวัดที่คิดหมายปองดอกฟ้า

ศึกที่ 2
พระเจ้าหงสาวดีทรงกริ้วที่พระเจ้าเชียงใหม่รบแพ้ เลยให้รบแก้ตัว โดยครั้งนี้เป็นศึกใหญ่เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมานับแสน สมเด็จพระนเรศวรเลยรับสั่งให้เกณฑ์คนจากหัวเมืองเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยรับศึก เสมาเลยสมัครเข้าเป็นทหารหัวเมืองช่วยรบ จนมีความดีความชอบได้อภัยโทษเก่า และได้ตำแหน่งเป็น หมื่นศึกอาสา แถมได้เจอกับ สิน ซึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคู่ใจอีกคน
เสมากลับมาอย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ได้รู้ว่าขันกลับไปจีบเรไรอีกครั้ง โดยทิ้งจำเรียงน้องสาวตน เพราะดูถูกที่ครอบครัวตนยากจน เสมาห่วงกลัวเรไรจะเปลี่ยนใจ เลยแอบลอบพบเรไร เสมาปลื้มใจที่รู้ว่าเรไรยังคงรักตนไม่เปลี่ยนแปลง เลยตั้งใจจะหาทางก้าวหน้าในราชการเพื่อยกฐานะให้เทียมหน้าเทียมตาเรไรให้ได้
แต่เรื่องนี้รู้เข้าถึงหูขุนราม ทำให้ขุนรามไม่พอใจแถมยังได้ลูกยุจากขัน พุฒ อีกขุนรามเลยยิ่งรังเกียจเสมาและกลัวว่าถ้าเสมาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาแล้วจะล้างแค้นตน เสมามีแต่ตำแหน่งอย่างเดียว และจะได้เงินก็ต่อเมื่อออกรบเท่านั้น (ประมาณทหารรับจ้าง) ขุนรามชอบขันเพราะบ้านขันร่ำรวยมาก แถมขัน พุฒ ยังช่วยกันประจบทั้งขุนราม เสมาเลยต้องไปตีเหล็กหาเงินใช้ ทำให้ได้เจอกับ เอื้อยแตงเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งคู่สนิทกันมาก แถมเอื้อยแตง ยังแอบชอบเสมา เลยมีคนเอาไปนินทา ทำให้ เรไรเข้าใจผิดคิดว่าเสมานอกใจ จนทั้งคู่ทะเลาะกัน ในขณะที่พุฒเห็นบัวเผื่อน ก็เลยจีบเพื่อหวังจะใช้บัวเผื่อนเป็นเครื่องมือในการยุแยงเรไรให้โกรธกับเสมา
เสมาตามมาง้อเรไรที่บ้าน แต่บัวเผื่อนแอบเห็นเข้าเลยฟ้องขุนราม ขุนรามโกรธมากเลยไล่เสมาออกจากบ้านแล้วจับเรไรล่ามโซ่ขังไว้เป็นการลงโทษ (สมัยก่อน ถ้าผู้หญิงผู้ชายทำผิดประเพณีถือเป็นเรื่องร้ายแรง แม้ว่าจะไม่มีอะไรเสียหายก็ตาม) เสมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่เกิดศึกใหญ่เข้ามาประชิดพระนครซะก่อน เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเลยต้องพักเอาไว้ก่อน

ศึกที่ 3
พระเจ้าหงสาวดีทรงพิโรธมากที่รบแพ้ไทยถึงสองครั้ง เลยกรีธาทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ มีรี้พลถึงห้าแสนมาบุกเข้าตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรเห็นเป็นศึกใหญ่มาก สมเด็จพระนเรศวรรับสั่งให้ส่งทัพออกตีค่ายทุกวัน โดยรบแบบกองโจร โดยออกรบปล้นค่ายด้วยพระองค์เองแม้จะถูกอาวุธบาดเจ็บหลายครั้งก็ไม่ทรงหวาดเกรง ทำให้ทัพไทยมีขวัญดีเยี่ยม เสมาเองก็เข้าตีค่ายหลายครั้งจนมีความดีความชอบมากมาย จนในที่สุดทัพหงสาวดีก็ต้องแตกพ่ายไป
เสมาได้เลื่อนยศเป็น ขุนศึกอาสา แต่ยังคงไม่มีเงินเหมือนเดิม แถมยังโดนขันกลั่นแกล้ง จนครอบครัวตนต้องติดหนี้ และถูกบีบเอาจำเรียงไปเป็นทาส เสมาเจ็บใจมาก พยายามหาเงินมาใช้หนี้ก็ยังได้เงินไม่มากนัก ในขณะที่เรไรได้รับการปล่อยตัวออกมา พ่อแม่ของเรไรเลยยิ่งอยากจะยกเรไรให้ขันมากขึ้น แต่เรไรไม่ยอมเพราะตนรักเสมา ขุนรามโกรธลูกมาก ลำภูเองก็กลุ้มใจจนไม่สบาย เรไรเลยยิ่งรู้สึกผิดเหมือนตนเป็นลูกอกกตัญญู เสมารู้ข่าว เรไรเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ขุนรามจับได้ว่าเสมาลอบมาพบเรไร เลยกะเกณฑ์คนจะทำร้ายเสมา เรไรไม่อยากให้พ่อกับชายคนรักต้องสู้กัน เลยขอร้องพ่อและรับปากว่าจะทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีเรื่องกัน ขันฉวยโอกาสช่วงนี้จะขอหมั้นเรไรไว้ แต่พอเสมารู้ข่าวก็แอบทำลายพิธีหมั้นด้วยการเผาเรือนขุนรามจนเสียฤกษ์ แต่ขันเจ็บใจมากที่ไม่ได้หมั้นและยังโดนหักหน้า เลยวางแผนจะรวบหัวรวบหางจำเรียงเป็นเมียน้อยเพื่อแก้แค้นเสมา
เสมารู้ข่าวเข้าเลยแอบขึ้นเรือนขันตอนกลางคืนเพื่อช่วยจำเรียงออกมา แต่จังหวะชุลมุน เสมาเลยหลงเข้าห้อง ดวงแข น้องสาวคนสวยของขัน เสมาเจ็บใจขันเลยแกล้งลวนลามดวงแขเพื่อแก้แค้น ทำให้ดวงแขทั้งรักทั้งเสมาตั้งแต่บัดนั้น
ศึกที่ 4
พระมหาธรรมราชา พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรเลย ขึ้นครองราชย์ โดยให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า พระเจ้าหงสาวดีเห็นไทยกำลังผลัดแผ่นดิน เลยรับสั่งให้พระมหาอุปราชายกทัพใหญ่มาตีไทยอีกครั้ง และในการรบครั้งนี้เอง สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้หลงเข้าไปในกองทัพพม่า จนเกิดการ “ยุทธหัตถี” ขึ้น สมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ ทำให้กองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม รวมทั้งเสมาที่ได้ตามช้างของสมเด็จพระนเรศรวรด้วย จนได้ความดีความชอบเป็น หลวงโจมจัตุรงค์
ขุนรามกลับจากศึก โดยได้รับความช่วยเหลือจากขัน พุฒ ทำให้รอดชีวิตมาได้ เลยยิ่งไว้ใจ ขัน พุฒมากขึ้น ไม่ว่าทั้งคู่จะพูดอะไรก็เชื่อตลอด โดยขันใส่ร้ายเสมาว่าการที่พวกตนต้องโดนโทษ น่าจะเป็นเพราะเสมาไปเป่าหูขุนนางผู้ใหญ่เพื่อล้างแค้น ขุนรามเลยผูกใจเจ็บ เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ลูกเมียฟัง เรไรกำลังหึงหวงเสมาก็เลยพลอยเชื่อไปด้วย จนถึงกับยอมรับปากจะหมั้นและแต่งงานกับขันแต่โดยดี ทำให้เสมาเสียใจสุดๆ
เสมาลอบมาพบเรไรและทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสมาเสียสมาธิจนทำการรบผิดพลาดเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ศึกที่ 5
สมเด็จพระนเรศวรทรงแค้นเคืองเมืองละแวกที่ชอบทำร้ายไทยลับหลังเลยให้พระราชมนูยกทัพ ไปตีเมืองละแวก โดยมีเสมาเป็นรองแม่ทัพแต่เพราะเรื่องเรไร เสมาเลยเสียสมาธิ ไม่รอบคอบ และทำให้ทัพไทยพ่ายแพ้
สมเด็จพระนเรศวรพิโรธมาก สั่งประหารพระราชมนูและเสมา แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอไว้พระราชมนูเลยได้ไปตีเมืองปัตบอง (พระตะบอง) และเมืองโพธิสัตว์เป็นการแก้ตัว ส่วนเสมาโดนถอดยศริบทรัพย์และส่งไปเป็น ตะพุ่นหญ้าช้าง ชีวิตตกต่ำสุดๆ แถมเรไรยังหมั้นกับขันซึ่งตอนนี้ได้ยศเป็น หมื่นชาญณรงค์ พุฒเป็น หมื่นทรงเดชะ ขุนรามเป็น หลวงรามเดชะ รุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม
เสมามางานหมั้นด้วยใจที่เจ็บปวด และเอาพานใส่ดอกจำปีมาให้เป็นของขวัญ เรไรเห็นดอกจำปี ก็รำลึกความหลัง จนร้องไห้เสียใจ แต่ต้องหักใจ เสมากลับไปเกี่ยวหญ้าให้ช้างกินตามหน้าที่ต่อไป แต่เพราะเรื่องนี้เอง ทำให้เสมาเจอคนมากขึ้นจนเข้าใจระเบียบการรับราชการ เลยรู้ว่าที่ตน ไม่มีเงินซักทีเพราะขุนรามกลั่นแกล้งนี่เองแถมเรื่องที่เสมาเที่ยวไปเจ้าชู้ก็ยังเป็นที่โจษจันไปทั่ว เพราะขัน พุฒ เที่ยวไปใส่ไฟ จนไม่มีใครรับเสมาเข้ากรมกองจนกระทั่งเสมาได้พบกับ พันจิตรเสน่หา นายทหารรับใช้ประจำวังจันทร์เกษมของสมเด็จพระเอกกาทศรถ เสมาเลยรู้ว่าจะมีการประลองหน้าพระที่นั่งเพื่อคัดคนเข้าเป็นทหารประจำวัง เสมาเลยเข้าประลองด้วย โดยได้สู้กับ ขุนจำนงรักษา ยอดฝีมือเพลงทวนประจำวัง แต่เสมาก็ใช้เพลงทวนเอาชนะ ขุนจำนงได้ จนมีโอกาสร่วมทัพไปต่อสู้เพื่อไถ่โทษ

ศึกที่ 6
หลังจากพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ หัวเมืองต่างๆที่เคยขึ้นกับหงสาวดีก็กระด้างกระเดื่องเพราะเห็นว่าหงสาวดีไม่มีน้ำยาแล้ว ไม่สามารถเอาชนะไทยได้ ทำให้พระเจ้าหงสาวดีต้องส่งทัพไปปราบปรามจนขาดแคลนคน จึงรับสั่งให้ พระเจ้าแปร ไปกะเกณฑ์ผู้คนตามหัวเมืองมาเป็นกำลัง พระเจ้าแปรไปจัดการตามรับสั่ง แต่เกิดรบกับทัพไทยที่เฝ้ารักษาชายแดนและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จนฮึกเหิมยกทัพบุกเข้ามามากขึ้น ทำให้สมเด็จพระนเรศวรต้องทรงออกรบ
ในขณะที่สองทัพประจันหน้ากัน สมิงมะตะเบิด ทหารเอกพระเจ้าแปรได้ออกมาท้ารบทหารกรุงศรีฯ แต่ทัพอยุธยาไม่มีใครสามารถสู้สมิงมะตะเบิดได้ซักคน เสมาเลยออกรบ ทั้งรบบนหลังม้าด้วยเพลงทวน และลงมารบพื้นราบด้วยดาบสองมือ จนสามารถตัดคอสมิงมะตะเบิดได้สำเร็จ ทำให้กองทัพไทยมีกำลังขวัญ บุกตะลุยทัพแปรจนแตกพ่ายไป
เสมามีความดีความชอบมาก ได้พ้นโทษและได้ยศเป็น ขุนแสนศึกพ่าย รับใช้สมเด็จพระเอกาทศรถ ทำให้เสมามั่งมีร่ำรวยขึ้นมากจนใช้หนี้ขันได้หมด ในขณะที่พวกขันเริ่มแตกคอกัน เพราะพุฒซึ่งหลงรักดวงแขอยู่ แต่ดวงแขไม่เล่นด้วย ทำให้พุฒผูกใจเจ็บหาว่าขันไม่ยอมช่วยเหลือ ส่วนขันก็เร่งรัดจะแต่งงานกับเรไร แต่ก็เกิดเหตุ ขุนรามป่วยจนเลื่อนไป ทำให้ขันเริ่มระแวงว่าขุนรามเดชะจะไม่อยากได้ตนเป็นเขยเพราะเห็นเสมาร่ำรวยขึ้น จนทั้งสามคนเริ่มมึนตึงใส่กัน
ในขณะที่เรไรรู้เรื่องจากบัวเผื่อนและพันอินว่าเข้าใจเสมาผิดไป และในการรบครั้งล่าสุด เสมายังช่วยชีวิตพ่อของตนด้วย แต่ขุนราม มีทิฐิเลยไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เรไรเลยปรับความเข้าใจกับเสมาได้สำเร็จ แต่เมื่อพ่อแม่รับปากขันแล้ว ตนก็เลยไม่สามารถถอนหมั้นขันได้ เสมาเองก็เข้าใจเลยได้แต่บอกตัวเองว่าตนกับเรไรคงสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่านี้ และพยายามหักใจจากเรไร

ศึกที่ 7
สมเด็จพระนเรศวรต้องการแก้แค้นเมืองละแวก เลยรับสั่งให้พระราชมนูกับเสมาที่เคยพ่ายศึกเมืองละแวก ทำการยกไปตีแก้ตัว ทั้งคู่สามารถตีเมืองละแวกและจับตัวพระยาละแวกมาถวายสมเด็จพระนเรศวรได้สำเร็จ ทำให้พระราชมนูก็เป็นเจ้าพระยามหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหมคุมอำนาจสูงสุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือ แต่ยังไม่ทันที่จะยกทัพกลับ ก็เกิดศึกขึ้นที่เมืองตะนาวศรีตามมาทันที

ศึกที่ 8
พระยาศรีไสยณรงค์ที่ถูกส่งไปปกครองเมืองตะนาวศรีเป็นกบฏขึ้น สมเด็จพระเอกาทศรถเลย ยกทัพไปปราบโดยมีเสมาเป็นทัพหน้า เสมาเลยได้เลื่อนเป็น จมื่นแสนศึกสะท้าน องครักษ์ประจำพระองค์ ทำให้ชีวิตของเสมาดีกว่าเดิมมาก แถมสังกัดสมเด็จพระเอกาทศรถโดยตรง ไม่ต้องมีมูลนายอื่นทำให้มีศักดินามากมายกว่าขุนราม ซึ่งตอนนี้เป็น พระรามเดชะ และมีเงินมากกว่าขันที่เป็น ขุนณรงค์วิชิต หรือพุฒที่เป็น ขุนวิเศษสรไกร
ต่อมาขันได้เลื่อนเป็น หลวงณรงค์วิชิต พุฒเป็น หลวงวิเศษสรไกร ทำให้ทั้งคู่หลงตัวเอง ไม่ยำเกรงขุนรามเหมือนแต่ก่อน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเลวร้ายลงไปอีก ต่างกับเสมาที่รอบคอบสุขุม ไม่บุ่มบ่ามเถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี

ศึกที่ 9
สมเด็จพระนเรศวรมีพระราชดำริจะตีกรุงหงสาวดีคืนบ้าง เพราะตอนนี้กรุงหงสาวดี ไม่เป็นปึกแผ่น แตกแยกกันไปหมด เลยจะยกทัพบุกกรุงหงสาวดีเพื่อเป็นพระเกียรติยศ พระเจ้าตองอูได้ข่าว เลยแกล้งทำเป็นสวามิภักดิ์อยุธยา แล้วเข้าไปจับตัวพระเจ้า หงสาวดีมาที่ตองอูรวมทั้งขนสมบัติ ไพร่พลราษฎรมากมายมาด้วย แล้วเผาหงสาวดีจนราบเป็นหน้ากลอง กว่าสมเด็จพระนเรศวรจะเสด็จไปถึงก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธมาก เพราะตั้งใจจะทำศึกเพื่อเป็นพระเกียรติยศสืบไป แต่พระเจ้าตองอูกลับใช้อุบายหลอกพระองค์แล้วยังเผาเมืองทิ้งอีก
สมเด็จพระนเรศวรเลยสั่งทัพไปบุกตองอูแทน ประกอบกับ ทัพไทยไม่ได้เตรียมเสบียงมาเผื่อตีตองอู เสบียงเลยขัดสนทำให้เสียหายหนักจนต้องยกทัพกลับ และศึกครั้งนี้เอง ที่ขัน พุฒ ทำงานผิดพลาดจนถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตรงข้ามกับเสมาที่ได้ขึ้นเป็น พระยามหาสงคราม ขันได้ก่อเรื่องอีกหลายอย่างแถมยังทำร้ายพี่ชายของขุนรามเดชะเพราะความโกรธด้วย ขุนรามเลยถอนหมั้นขันกับเรไรซะ เสมาเลยได้โอกาสทูลขอเรไรจากสมเด็จพระเอกาทศรถ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันสมกับที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมานาน
หลังจากแต่งงานไม่นาน พันอินทราชซึ่งตอนนี้เป็น หลวงพิมานมงคล ได้เสียชีวิตลงและฝากฝังให้เสมาดูแลศรีเมืองแทนตนด้วย เรไรเลยอนุญาตให้เสมารับศรีเมืองไว้เป็นภรรยาน้อยได้ ส่วนขันกับพุฒก็ทะเลาะกันรุนแรง เพราะพุฒใช้เส้นน้าชายไปสังกัดกรมกองใหม่โดยไม่บอกขัน แม่ของขันทนสงสารลูกไม่ได้ เลยไปขอให้เสมาช่วย เสมาลืมเรื่องเก่าๆ ทำให้ขันซึ้งใจ ยอมรับผิดและทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน

ผ่านมาอีกไม่กี่ปี สมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จสวรรคต ทำให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ เสมา ได้เลื่อนเป็น พระยารามจัตุรงค์ มีชีวิตความเป็นอยู่รุ่งเรืองสุขสบายอยู่หลายปี จนสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จ
สวรรคต เสมาจึงต้องออกจากราชการเพราะ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ กษัตริย์พระองค์ใหม่ไม่ทรงโปรด แต่ถึงอย่างงั้น เสมาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง จนซึ้งถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และรู้ว่าคนเราในขณะที่มี ชีวิตอยู่ ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยมีความกตัญญูกตเวทีเป็นที่ตั้งของชีวิต

จบบริบูรณ์

ย้อนรอย “ไทย” เป็น “ไท”

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถ่ายทอดโดย ธนากร โปษยานนท์
- สูงใหญ่ ผิวคล้ำ บุคลิกมีอำนาจจนคนต้องหวั่นเกรง
-เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโขทัย (ตำราเก่าถือเป็นราชวงศ์สุพรรณภูมิครับ แต่ตำราใหม่เปลี่ยนเป็นสุโขทัย) ทั้งยังเป็นมหาราชที่กอบกู้เอกราชของชาติไทยด้วย
-พระอุปนิสัย จริงจัง เด็ดขาด เข้มแข็ง แต่ก็ยุติธรรม มีอุดมการณ์ที่จะกอบกู้เอกราช และขยายอาณาเขตให้ กรุงศรีอยุธยา มีฝีมือในการรบทุกศาสตร์ ตลอดจนแตกฉานพิชัยสงคราม โดยทรงปรับปรุงตำราพิชัยสงครามของไทยใหม่ จนใช้มาถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยาทีเดียว

สมเด็จพระเอกาทศรถ ถ่ายทอดโดย รอน บรรจงสร้าง
- ผิวขาว บุคลิกสง่างาม
-เป็นพระราชอนุชาของสมเด็จพระนเรศวร ต่อมาได้เป็นกษัตริย์ต่อจากสมเด็จพระนเรศวร
-พระอุปนิสัยฉลาดหลักแหลม เป็นคู่คิดของสมเด็จพระนเรศวรมาตลอด

แนะนำตัวละคร “ขุนศึก”

เสมา รับบทโดย อธิชาติ ชุมนานนท์
-ชายไทย ล่ำสัน แข็งแรงมาก หน้าตาหล่อเหลา
-ช่วงแรกจะเป็นช่างเหล็กฝีมือดี ยากจน แต่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นทหาร ไปเรียนวิชาการต่อสู้ตลอดจนพิชัยสงครามจากวัดพุทไธสวรรย์ ชำนาญดาบสองมือ รับราชการขึ้นๆลงๆอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดได้เป็นพระยา มีฐานะร่ำรวย
-นิสัยกล้าหาญ แต่มุทะลุบ้าบิ่นไปหน่อย ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดแล้วจะเถียงแบบหัวชนฝาจนหาเรื่องเข้าตัวบ่อยๆ ซื่อสัตย์ ยึดถือความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่มักจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงอยู่ตลอด ทั้งที่ไปชอบเค้า และเค้ามาชอบ จนเกิดปัญหาให้ชีวิตผกผันบ่อยครั้ง

เรไร รับบทโดย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
-แม่หญิงสูงศักดิ์ ผิวขาว สวยมาก หน้าหวาน
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นลูกสาวของขุนรามเดชะ ฐานะค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับรวย
-นิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย รักเดียวใจเดียว แต่ขี้หึง ถือทิฐิรุนแรง แม้จะไม่ค่อยทะเลาะกับใครหนักๆแต่ถ้าโกรธแล้วก็ฝังใจ ไม่อภัยง่ายๆ

ขัน รับบทโดย วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์
-ชายหนุ่ม สูงใหญ่ ล่ำสัน ผิวสองสี หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม
-เป็นทหาร ชำนาญดาบสองมือ พ่อเป็นหลวงแต่เสียชีวิตแล้ว รวยมาก
-นิสัยขี้อิจฉา พาลหาเรื่องเก่ง ผูกพยาบาทจองเวร โลภมากมักใหญ่ใฝ่สูง แม้จะโมโหร้าย แต่พอคับขันก็ขี้ขลาดไม่ใช่คนกล้าหาญอะไรมาก

ดวงแข รับบทโดย พรชิตา ณ สงขลา
-แม่หญิง ผิวสองสี สวยมาก แต่หนักไปทางสวยคมต่างจากเรไรที่สวยหวาน
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นเพื่อนเรไร น้องสาวขัน อยู่เป็นโสด ไม่ยอมแต่งงานกับใครเลย
-นิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย รักเดียวใจเดียว และเป็นคนเดียวที่ไม่แต่งงานกับใคร แต่บางครั้งก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ น้ำนิ่งไหลลึก ฉลาดกว่าที่เห็นภายนอกมาก แอบชอบเสมาอยู่

สมบุญ รับบทโดย เกียรติกมล ล่าทา
-ชายหนุ่ม ตัวเล็ก แต่ล่ำสันแข็งแรง หน้าตาธรรมดา
-เป็นทาสของรามเดชะ ต่อมาเสมาสอนดาบให้เลยไปเป็นทหารทำให้ได้ไถ่ตัวออกไป ติดตามเสมาตลอดจนเป็นถึงหลวงชำนาญดาบสองมือ
-ซื่อสัตย์ ใจเย็น รักสนุกเฮฮาไปเรื่อย ช่างนินทาสอดรู้สอดเห็น

สิน รับบทโดย โกสินทร์ ราชกรม
-ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ ล่ำสันแข็งแรง หน้าตาธรรมดา
-เป็นทหารอาสาวิเศษไชยชาญ รู้จักกับเสมาและได้เสมาสอนวิชาให้จนเป็นถึงหลวง ชำนาญทวน
-เป็นคนมุทะลุ บ้าบิ่น เอะอะโวยวาย รักสนุกชอบกินเหล้า และชอบเถียงเอาชนะจนน่ารำคาญทั้งๆที่ไม่มีสาระอะไร แต่ซื่อสัตย์มาก ตอนหลังแต่งงานกับเอื้อยแตง กลัวเมียมาก

เอื้อยแตง รับบทโดย มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
-แม่หญิง ผิวขาว สวย ตัวเล็กแต่คล่องแคล่วว่องไว
-เป็นแม่ค้าขายเหล็ก เป็นเพื่อนสนิทกับจำเรียง ยากจน ตอนหลังแต่งงานกับสิน
-เป็นคนจิตใจดี พูดเก่งมากเพราะเป็นคนค้าขายมาก่อน ด่าเป็นไฟแลบ งกเค็ม แอบรักเสมาอยู่

รามเดชะ รับบทโดย นิรุตติ์ ศิริจรรยา
-นายทหาร สูงใหญ่ ล่ำสัน ผิวสองสี หน้าตาดูเคร่งเครียดตลอดเวลา
-เป็นทหาร เป็นพ่อเรไร ฐานะค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับรวย
-เป็นคนรักหน้ามาก เจ้าอารมณ์ หูเบา ลำเอียง แต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรมาก

พันอิน รับบทโดย สรพงศ์ ชาตรี
-เป็นทหารฝ่ายจัดหาอาวุธ เป็นเพื่อนสนิทกับรามเดชะและมั่น เป็นพ่อบุญธรรมของเสมา ศรีเมือง
-เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ถือสาเรื่องประเพณีมาก ใจเย็นไม่ค่อยโกรธใคร

พุฒ รับบทโดย วรรธนะ กัมทรทิพย์
-ชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสะโอดสะอง
-เป็นทหาร ชำนาญกระบี่ เป็นเพื่อนรักกับขัน ฐานะปานกลาง
-นิสัยเหมือนขัน แต่เจ้าเล่ห์โหดเหี้ยมกว่า เป็นคนคอยออกอุบายต่างๆให้ขัน

จำเรียง รับบทโดย ภัทรินทร์ เจียรสุข
-แม่หญิง สวย คม เป็นน้องสาวของเสมา
-เป็นข้าหลวงในวังเหมือนเรไร แต่ฐานะต่ำกว่า เพราะไม่มีเงินเลยไปทำงานเป็นข้าหลวง ทำให้ไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นพิเศษ
-ชอบคนประจบ หูเบา ฟุ้งเฟ้อ ช่วงแรกจะดูถูกเสมามากเพราะเห็นว่าพี่เป็นคนไม่ได้เรื่อง พอตกไปเป็นทาสเพราะโดนคนที่ตนรักอย่างขันหลอก เลยได้สำนึก ตอนหลังแต่งงานกับสมบุญ

ศรีเมือง รับบทโดย อรุณณภา พาณิชจรูญ
-แม่หญิง ผิวขาว ค่อนข้างอวบเล็กน้อยแต่ไม่อ้วน สวยหวาน
-เป็นลูกบุญธรรมของพันอิน เป็นภรรยาน้อยของเสมา โดยพันอินฝากฝังไว้กับเสมาก่อนตาย
-นิสัยเรียบร้อย เป็นแม่เหย้าแม่เรือน แต่อ่อนแอไม่ค่อยกล้าทะเลาะอะไรกับใคร แอบรักเสมาอยู่

บัวเผื่อน รับบทโดย เพชรดา เทียมเพ็ชร
-แม่หญิง ผิวขาว หน้าตาดีแต่ไม่ถึงกับสวย
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นเพื่อนเรไร ดวงแข รวย ตอนหลังแต่งงานกับขัน
-เป็นคนพูดมาก ช่างนินทา หลงรักพุฒจนทำได้ทุกอย่างแม้แต่ทรยศเพื่อน หยิ่งยโสดูถูกคนที่ต่ำกว่า

ลำภู รับบทโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
-เป็นแม่เรไร ภรรยารามเดชะ
-เป็นคนชอบคนประจบ รักลูกมาก แต่ค่อนข้างดูถูกคนที่ด้อยกว่าตน

มั่น รับบทโดย สุเชาว์ พงษ์วิไล
-เป็นช่างตีเหล็กฝีมือดี เป็นพ่อเสมา ยากจน
-นิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ค่อนข้างขี้กลัว ไม่อยากมีเรื่องกับใคร มีปมด้อยเรื่องที่พ่อตัวเองเป็นทหารชื่อขุนชำนะ พลแสน แต่พอกรุงแตกต้องกระจัดกระจาย ตนตกอับต้องมาเป็นช่างตีเหล็ก แต่ได้วิชาตีดาบจากพ่อเลยเลี้ยงชีวิตได้ เพราะปมตรงนี้เลยเอาเสมาไปฝากที่วัดตั้งแต่เล็ก เพื่อเรียนวิชาการรบ ด้วยความหวังว่าเสมาจะกอบกู้ชื่อเสียง วงศ์ตระกูลให้

บุญเรือน รับบทโดย ดวงใจ หทัยกาญจน์
-เป็นแม่เสมา จำเรียง
-รักลูกสาวมากกว่าลูกชาย อคติกับเสมาตลอด จนถูกขันหลอกเลยสำนึกได้ แต่ก็เสียใจที่จำเรียงต้องไปเป็นทาส จนตรอมใจตาย

แต้ม รับบทโดย ไชย ขุนศรีรักษา
-เป็นพ่อเอื้อยแตง ค้าขายเหล็ก ช่วงแรกจะจน แต่พอเจอรามเดชะและจำกันได้ว่าเป็นพี่แท้ๆของรามเดชะเลย สบายขึ้น
-พูดเก่งจนน่ารำคาญ ชอบป้อยอคนมีอำนาจ และดูถูกคนจนด้วยกัน แต่ก็มีน้ำใจพอใช้ได้

อำพัน รับบทโดย โฉมฉาย ฉัตรวิไล
-เป็นแม่ขัน เป็นม่าย รวยมาก
-เป็นคนรักลูกมาก แต่ก็ยุติธรรมไม่ได้เข้าข้างลูกทุกเรื่อง เรียบร้อย ไม่ค่อยมีปากเสียงกับใคร

ตัวละครพิเศษ

พระราชมนู รับบทโดย ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์
- สูงใหญ่ ผิวขาว เข้มแข็งสมเป็นทหาร
-เป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร
-นิสัยซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา มีฝีมือการรบเก่งกาจมาก ตลอดจนเจนจบตำราพิชัยสงคราม ภายหลังได้เป็นเจ้าพระยา มหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหม มีอำนาจควบคุมหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด ถือเป็นผู้มีอำนาจอันดับสามในสมัยนั้นเลยทีเดียว

พระยาศรีไสยณรงค์ รับบทโดย กรกฏ ธนภัทร
- ผิวขาว บุคลิกองอาจสมเป็นทหาร
-เป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร ร่วมรบกับสมเด็จพระนเรศวรมาตลอดเช่นเดียวกับพระราชมนู แต่ภายหลังก่อกบฏ ซึ่งแม้แต่สมเด็จพระนเรศวรเองก็ยังไม่อยากทรงเชื่อว่าจะเป็นจริง

จมื่นศรีสรรักษ์ รับบทโดย ฐากูร การทิพย์
-ชายหนุ่ม อายุ 17 สูง ล่ำสัน ท่าทางองอาจมีความมั่นใจในตนเองสูงมาก
-เป็นบุคคลสำคัญปลายสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ เพราะพอสมเด็จพระเอกาทศรถสวรรคต เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ ขึ้นครองราชย์ จมื่นศรีสรรักษ์ก็ก่อการกบฏ ปลงพระชนม์เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ และอัญเชิญพระพิมลธรรมอนันตปรีชา ลาผนวชมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าทรงธรรมต่อไป หลังจากพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต จมื่นศรีสรรักษ์ก็กบฏอีกและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าปราสาททอง พระราชบิดาของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยในเรื่องขุนศึกจะมีบทบาท อยู่เล็กน้อยตอนท้ายเรื่อง

พระครูขุน รับบทโดย อิทธิฤทธิ์ สิงหรัตน์
-ชาย อายุประมาณ 50
-เป็นพระภิกษุ เป็นอาจารย์ของเสมา จำวัดอยู่ที่วัดพุทไธสวรรย์ ก่อนบวชเป็นแม่กองอาทมาต (กองอาทมาตคือ หน่วยรบพิเศษ ซึ่งคนจะเป็นได้ต้องเชี่ยวชาญทุกศาสตร์การรบ ซึ่งเป็นยากมาก)

พระเจ้านันทบุเรง รับบทโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
-เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงหงสาวดี เพราะความระแวงเลยส่งคนไปลอบสังหารสมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรประกาศเอกราช และทำสงครามกันเรื่อยมา จนถูกพระสังกทัตโอรสพระเจ้าตองอูวางยาพิษ

พระมหาอุปราชา รับบทโดย อดิศร อรรถกฤษณ์
-เป็นพระราชโอรสและรัชทายาทของพระเจ้านันทบุเรง ได้ทำศึกกับพระนเรศวรหลายครั้งจนถึงยุทธหัตถี มีพระอุปนิสัยเป็นนักรบและถือขัตติยะมานะ

พระเจ้าเชียงใหม่ รับบทโดย สุรจิต บุญญานนท์
-เป็นพระราชอนุชาของพระเจ้านันทบุเรง ทำศึกกับไทยในช่วงแรกๆและภายหลังมาอ่อนน้อมเป็นเมืองขึ้น

พระวิสุทธิกษัตรีย์ รับบทโดย พิศมัย วิไลศักดิ์
พระมหาธรรมราชา รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล
พระยาพิชัยสงคราม รับบทโดย พงศนารถ วินศิริ
สมเด็จพระนพรัตน์ รับบทโดย ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง
พันจิตรเสน่หา รับบทโดย ดนัย จารุจินดา
อาจารย์บ่าย รับบทโดย พงศภัค อุบล
ขุนจำนง รับบทโดย อติเทพ ชดช้อย
พระเจ้าแปร รับบทโดย โชคชัย บุญวรเมธี
สมิงโยคราช รับบทโดย วัชรชัย สุนทรศิริ
แม่ทัพพม่า รับบทโดย เอก ธนากร
สมิงมะตะเบิด รับบทโดย ธนาวุฒิ เกสโร
นันทะกะยอสู รับบทโดย วัชรชัย สุนทรศิริ
ไชกะยอสู รับบทโดย เขมชาติ โรจนะหัสดิน
พิณ รับบทโดย ภาวิณี วัฒน์รณชัย


Whoever know Thai very well then just just translate for us to understand.
 

Sweet_09

❤All that you are is all that I'll ever need❤
Ploy is so pretty...and cute too! Aum is handsome as always but look wierd...maybe just my eyes lol
 

Sweet_09

❤All that you are is all that I'll ever need❤
Da teaser seem nice but it look very SAD! Oh when is da correct date of the airing day...
 

Mintyyasian

sarNie Juvenile
เรื่องย่อจบบริบูรณ์ แนะนำตัวละคร “ขุนศึก”



“ขุนศึก”

บทประพันธ์ : ไม้เมืองเดิม - สุมทุม บุญเกื้อ
บทโทรทัศน์ : เอกลิขิต
กำกับการแสดง : อดุลย์ บุญบุตร
ผลิตโดย : บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด โดยณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
แนวละคร : ดราม่า - อิงประวัติศาสตร์
ออกอากาศ : จันทร์-อังคาร เวลา 20.30 ทาง ช่อง 3
ระยะเวลาออกอากาศ : จันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ 2555 -
จำนวนตอน : -

ณ ปี พ.ศ. ๒๑๒๗ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ธนากร โปษยานนท์) ซึ่งในตอนนั้นยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า ยังไม่ได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ได้หลั่งอุทกธาราประกาศเอกราชให้ชาติไทยไม่ขึ้นต่อกรุงหงสาวดีอีกต่อไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกึกก้องของกองทัพไทย และความดีใจของคนไทยที่ไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นอีกต่อไป

เสมา (อธิชาติ ชุมนานนท์) ลูกชาย มั่น (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ช่างตีเหล็ก ซึ่งปรารถนาจะใช้วิชาความรู้ในเชิงรบที่ได้ร่ำเรียนมารักษาแผ่นดินเกิดไว้

มั่นเห็นลูกชายมีความตั้งใจจริง และฝีมือในเชิงรบโดยเฉพาะดาบสองมือก็ไม่เป็นสองรองใคร มั่นจึงพาเสมาไปฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมของ พันอินทราช (สรพงศ์ ชาตรี) เพื่อนสนิทของมั่น พันอินเห็นเสมามีหน่วยก้านดี และเป็นศิษย์เอกของ พระครูขุน (อิทธิฤทธิ์ สิงหรัตน์) ภิกษุแห่งวัดพุทไธสวรรย์ ซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพกองอาทมาตที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ เลยพาเสมาไปฝากกับ ขุนรามเดชะ (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพื่อนและเจ้านายของพันอิน ซึ่งมีหน้าที่รับและฝึกสอนทหารใหม่

ขุนรามต้องการทดสอบฝีมือเสมา เลยให้ประลองดาบสองมือกับ ขัน (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) หัวหน้าที่ฝีมือดีที่สุดแต่ขันประมาทเลยแพ้จึงทำให้ขันเจ็บใจว่าตนสู้เสมาไม่ได้ ขันเลยอิจฉาเสมา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เอง ทำให้เสมาได้เจอกับ เรไร (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ลูกสาวคนสวยของขุนราม ซึ่งเป็นนางข้าหลวงอยู่ในวังแต่กลับมาเยี่ยมลำภู (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) มารดาที่ไม่สบายพอดี เสมาหลงรักเรไรตั้งแต่แรกพบ เช่นเดียวกับที่เรไรก็แอบชอบเสมาเช่นกัน

จนวันที่เสมาได้รับเครื่องแบบทหาร ทั้งคู่จึงได้เจอกันอีกครั้ง ในขณะที่เรไรกำลังเก็บดอกจำปีอยู่เสมาเก็บได้ เสมาขอดอกจำปีดอกนั้นเอาไว้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของตน

ซึ่งขันได้เข้ามาเห็นพอดี เลยรู้ว่าเรไรผู้หญิงที่ตนแอบชอบอยู่มีใจให้เสมา ทำให้ยิ่งริษยาเสมาหนักขึ้น แต่ สมบุญ (เกียรติกมล ล่าทา) ทาสของขุนรามซึ่งนับถือเสมาตั้งแต่วันที่ทดสอบดาบกับขัน ได้เอาแผนการของขันมาบอกเสมา เสมาโมโหเลยไปท้าดวลดาบกับขัน ขุนรามกลับมาเห็นเข้าเลยไม่พอใจ เพราะการกระทำของเสมาเหมือนกับการกระด้างกระเดื่องกับผู้บังคับบัญชา

ขุนรามเลยสั่งจำคุกเสมาเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอน เรไรสงสารเสมาเลยแอบมาเยี่ยม เสมาดีใจที่เรไรมีใจให้ตน เรไรบอกเสมาให้ขยันหมั่นเพียรสร้างเนื้อสร้างตัว ภายภาคหน้าจะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่น้อยหน้าคนอื่น เสมารับปากและมีเรไรเป็นกำลังใจตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พอครบกำหนดโทษออกมา ก็เกิดศึกพระเจ้าเชียงใหม่ทัพมา ทำให้เสมาได้เข้าสู่สมรภูมิการรบเป็นครั้งแรก พอถึงเวลาไปศึก เรไรเป็นห่วงเสมากลัวจะเป็นอันตราย เลยถอดแหวนทองของตนมอบให้เสมาเพื่อเป็นกำลังใจ เสมาดีใจมากและสัญญาว่าจะเอาแหวนวงนี้กลับมา คืนให้เรไรให้ได้

ศึกที่ 1
พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ได้ให้ พระเจ้าเชียงใหม่ กับ พระยาพสิม ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวร กับ สมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ยกกองทัพเข้าต่อสู้ โดยเสมา ขัน สมบุญ ขุนราม อยู่ในกองทัพของ พระราชมนู แม่ทัพของสมเด็จพระนเรศวร เสมากับขันได้ท้าทายกัน ว่าใครจะตัดหัวขุนศึกฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่ากัน ขันแกล้งไม่ยกทัพเข้าช่วยเสมา ทำให้เสมาต้องถูกคู่ต่อสู้รุมตี แต่เสมาก็เอาตัวรอดพาทหารหักฝ่ามาได้ ในขณะที่ขันไปเจอกองทัพใหญ่ของคู่ต่อสู้ เลยถูกตีจนเกือบตาย เสมาพาทหารบุกเข้าไปช่วยขันกับลูกน้องออกมาได้ แถมยังตัดหัวขุนพลของข้าศึกได้อีกต่างหาก แต่เสมาไม่รู้ว่า ที่ต้องเอาผ้าโพกหัวของข้าศึกไปเป็นหลักฐานยืนยันความดีความชอบ ขันเลยเอาผ้าโพกหัวของขุนพลพม่ากลับไปรับความดีความชอบแทน
เสร็จศึก พระเจ้าเชียงใหม่พ่ายแพ้กลับไป เสมาได้กลับมาและเอาแหวนทองของเรไรมาคืน และตนจะพยายามก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโตให้ได้ เพื่อที่เรไรจะได้ไม่น้อยหน้าใคร เรไรปลื้มใจที่เสมารักตน โดยหลังจากศึกครั้งนี้เสมาขึ้นเป็นหัวหมู่โดยมีสมบุญเป็นศิษย์เอกคอยฝึกหัดทหาร แต่ขันได้ตำแหน่งเป็น พันฤทธิ์รณรบ และได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่ดีขึ้น แต่ขันก็ยังริษยาเสมาอยู่ตลอด เลยวางแผนจีบ จำเรียง น้องสาวของเสมา จำเรียงหลงขันมากและยิ่ง บุญเรือน แม่ของตนเห็นดีเห็นงามด้วย ขันก็ยิ่งได้ใจ กลั่นแกล้งเสมาตลอดแถมยังเอาเรื่องที่เสมาจีบเรไรไปนินทา จนเสมาเป็นตัวตลกเหมือนหมาวัดที่คิดหมายปองดอกฟ้า

ศึกที่ 2
พระเจ้าหงสาวดีทรงกริ้วที่พระเจ้าเชียงใหม่รบแพ้ เลยให้รบแก้ตัว โดยครั้งนี้เป็นศึกใหญ่เพราะพระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมานับแสน สมเด็จพระนเรศวรเลยรับสั่งให้เกณฑ์คนจากหัวเมืองเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยรับศึก เสมาเลยสมัครเข้าเป็นทหารหัวเมืองช่วยรบ จนมีความดีความชอบได้อภัยโทษเก่า และได้ตำแหน่งเป็น หมื่นศึกอาสา แถมได้เจอกับ สิน ซึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคู่ใจอีกคน
เสมากลับมาอย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ได้รู้ว่าขันกลับไปจีบเรไรอีกครั้ง โดยทิ้งจำเรียงน้องสาวตน เพราะดูถูกที่ครอบครัวตนยากจน เสมาห่วงกลัวเรไรจะเปลี่ยนใจ เลยแอบลอบพบเรไร เสมาปลื้มใจที่รู้ว่าเรไรยังคงรักตนไม่เปลี่ยนแปลง เลยตั้งใจจะหาทางก้าวหน้าในราชการเพื่อยกฐานะให้เทียมหน้าเทียมตาเรไรให้ได้
แต่เรื่องนี้รู้เข้าถึงหูขุนราม ทำให้ขุนรามไม่พอใจแถมยังได้ลูกยุจากขัน พุฒ อีกขุนรามเลยยิ่งรังเกียจเสมาและกลัวว่าถ้าเสมาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาแล้วจะล้างแค้นตน เสมามีแต่ตำแหน่งอย่างเดียว และจะได้เงินก็ต่อเมื่อออกรบเท่านั้น (ประมาณทหารรับจ้าง) ขุนรามชอบขันเพราะบ้านขันร่ำรวยมาก แถมขัน พุฒ ยังช่วยกันประจบทั้งขุนราม เสมาเลยต้องไปตีเหล็กหาเงินใช้ ทำให้ได้เจอกับ เอื้อยแตงเพื่อนสมัยเด็ก ทั้งคู่สนิทกันมาก แถมเอื้อยแตง ยังแอบชอบเสมา เลยมีคนเอาไปนินทา ทำให้ เรไรเข้าใจผิดคิดว่าเสมานอกใจ จนทั้งคู่ทะเลาะกัน ในขณะที่พุฒเห็นบัวเผื่อน ก็เลยจีบเพื่อหวังจะใช้บัวเผื่อนเป็นเครื่องมือในการยุแยงเรไรให้โกรธกับเสมา
เสมาตามมาง้อเรไรที่บ้าน แต่บัวเผื่อนแอบเห็นเข้าเลยฟ้องขุนราม ขุนรามโกรธมากเลยไล่เสมาออกจากบ้านแล้วจับเรไรล่ามโซ่ขังไว้เป็นการลงโทษ (สมัยก่อน ถ้าผู้หญิงผู้ชายทำผิดประเพณีถือเป็นเรื่องร้ายแรง แม้ว่าจะไม่มีอะไรเสียหายก็ตาม) เสมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่เกิดศึกใหญ่เข้ามาประชิดพระนครซะก่อน เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเลยต้องพักเอาไว้ก่อน

ศึกที่ 3
พระเจ้าหงสาวดีทรงพิโรธมากที่รบแพ้ไทยถึงสองครั้ง เลยกรีธาทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ มีรี้พลถึงห้าแสนมาบุกเข้าตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรเห็นเป็นศึกใหญ่มาก สมเด็จพระนเรศวรรับสั่งให้ส่งทัพออกตีค่ายทุกวัน โดยรบแบบกองโจร โดยออกรบปล้นค่ายด้วยพระองค์เองแม้จะถูกอาวุธบาดเจ็บหลายครั้งก็ไม่ทรงหวาดเกรง ทำให้ทัพไทยมีขวัญดีเยี่ยม เสมาเองก็เข้าตีค่ายหลายครั้งจนมีความดีความชอบมากมาย จนในที่สุดทัพหงสาวดีก็ต้องแตกพ่ายไป
เสมาได้เลื่อนยศเป็น ขุนศึกอาสา แต่ยังคงไม่มีเงินเหมือนเดิม แถมยังโดนขันกลั่นแกล้ง จนครอบครัวตนต้องติดหนี้ และถูกบีบเอาจำเรียงไปเป็นทาส เสมาเจ็บใจมาก พยายามหาเงินมาใช้หนี้ก็ยังได้เงินไม่มากนัก ในขณะที่เรไรได้รับการปล่อยตัวออกมา พ่อแม่ของเรไรเลยยิ่งอยากจะยกเรไรให้ขันมากขึ้น แต่เรไรไม่ยอมเพราะตนรักเสมา ขุนรามโกรธลูกมาก ลำภูเองก็กลุ้มใจจนไม่สบาย เรไรเลยยิ่งรู้สึกผิดเหมือนตนเป็นลูกอกกตัญญู เสมารู้ข่าว เรไรเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ขุนรามจับได้ว่าเสมาลอบมาพบเรไร เลยกะเกณฑ์คนจะทำร้ายเสมา เรไรไม่อยากให้พ่อกับชายคนรักต้องสู้กัน เลยขอร้องพ่อและรับปากว่าจะทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีเรื่องกัน ขันฉวยโอกาสช่วงนี้จะขอหมั้นเรไรไว้ แต่พอเสมารู้ข่าวก็แอบทำลายพิธีหมั้นด้วยการเผาเรือนขุนรามจนเสียฤกษ์ แต่ขันเจ็บใจมากที่ไม่ได้หมั้นและยังโดนหักหน้า เลยวางแผนจะรวบหัวรวบหางจำเรียงเป็นเมียน้อยเพื่อแก้แค้นเสมา
เสมารู้ข่าวเข้าเลยแอบขึ้นเรือนขันตอนกลางคืนเพื่อช่วยจำเรียงออกมา แต่จังหวะชุลมุน เสมาเลยหลงเข้าห้อง ดวงแข น้องสาวคนสวยของขัน เสมาเจ็บใจขันเลยแกล้งลวนลามดวงแขเพื่อแก้แค้น ทำให้ดวงแขทั้งรักทั้งเสมาตั้งแต่บัดนั้น
ศึกที่ 4
พระมหาธรรมราชา พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรเลย ขึ้นครองราชย์ โดยให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นเป็นพระมหาอุปราชวังหน้า พระเจ้าหงสาวดีเห็นไทยกำลังผลัดแผ่นดิน เลยรับสั่งให้พระมหาอุปราชายกทัพใหญ่มาตีไทยอีกครั้ง และในการรบครั้งนี้เอง สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้หลงเข้าไปในกองทัพพม่า จนเกิดการ “ยุทธหัตถี” ขึ้น สมเด็จพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ ทำให้กองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม รวมทั้งเสมาที่ได้ตามช้างของสมเด็จพระนเรศรวรด้วย จนได้ความดีความชอบเป็น หลวงโจมจัตุรงค์
ขุนรามกลับจากศึก โดยได้รับความช่วยเหลือจากขัน พุฒ ทำให้รอดชีวิตมาได้ เลยยิ่งไว้ใจ ขัน พุฒมากขึ้น ไม่ว่าทั้งคู่จะพูดอะไรก็เชื่อตลอด โดยขันใส่ร้ายเสมาว่าการที่พวกตนต้องโดนโทษ น่าจะเป็นเพราะเสมาไปเป่าหูขุนนางผู้ใหญ่เพื่อล้างแค้น ขุนรามเลยผูกใจเจ็บ เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ลูกเมียฟัง เรไรกำลังหึงหวงเสมาก็เลยพลอยเชื่อไปด้วย จนถึงกับยอมรับปากจะหมั้นและแต่งงานกับขันแต่โดยดี ทำให้เสมาเสียใจสุดๆ
เสมาลอบมาพบเรไรและทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสมาเสียสมาธิจนทำการรบผิดพลาดเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ศึกที่ 5
สมเด็จพระนเรศวรทรงแค้นเคืองเมืองละแวกที่ชอบทำร้ายไทยลับหลังเลยให้พระราชมนูยกทัพ ไปตีเมืองละแวก โดยมีเสมาเป็นรองแม่ทัพแต่เพราะเรื่องเรไร เสมาเลยเสียสมาธิ ไม่รอบคอบ และทำให้ทัพไทยพ่ายแพ้
สมเด็จพระนเรศวรพิโรธมาก สั่งประหารพระราชมนูและเสมา แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอไว้พระราชมนูเลยได้ไปตีเมืองปัตบอง (พระตะบอง) และเมืองโพธิสัตว์เป็นการแก้ตัว ส่วนเสมาโดนถอดยศริบทรัพย์และส่งไปเป็น ตะพุ่นหญ้าช้าง ชีวิตตกต่ำสุดๆ แถมเรไรยังหมั้นกับขันซึ่งตอนนี้ได้ยศเป็น หมื่นชาญณรงค์ พุฒเป็น หมื่นทรงเดชะ ขุนรามเป็น หลวงรามเดชะ รุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม
เสมามางานหมั้นด้วยใจที่เจ็บปวด และเอาพานใส่ดอกจำปีมาให้เป็นของขวัญ เรไรเห็นดอกจำปี ก็รำลึกความหลัง จนร้องไห้เสียใจ แต่ต้องหักใจ เสมากลับไปเกี่ยวหญ้าให้ช้างกินตามหน้าที่ต่อไป แต่เพราะเรื่องนี้เอง ทำให้เสมาเจอคนมากขึ้นจนเข้าใจระเบียบการรับราชการ เลยรู้ว่าที่ตน ไม่มีเงินซักทีเพราะขุนรามกลั่นแกล้งนี่เองแถมเรื่องที่เสมาเที่ยวไปเจ้าชู้ก็ยังเป็นที่โจษจันไปทั่ว เพราะขัน พุฒ เที่ยวไปใส่ไฟ จนไม่มีใครรับเสมาเข้ากรมกองจนกระทั่งเสมาได้พบกับ พันจิตรเสน่หา นายทหารรับใช้ประจำวังจันทร์เกษมของสมเด็จพระเอกกาทศรถ เสมาเลยรู้ว่าจะมีการประลองหน้าพระที่นั่งเพื่อคัดคนเข้าเป็นทหารประจำวัง เสมาเลยเข้าประลองด้วย โดยได้สู้กับ ขุนจำนงรักษา ยอดฝีมือเพลงทวนประจำวัง แต่เสมาก็ใช้เพลงทวนเอาชนะ ขุนจำนงได้ จนมีโอกาสร่วมทัพไปต่อสู้เพื่อไถ่โทษ

ศึกที่ 6
หลังจากพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์ หัวเมืองต่างๆที่เคยขึ้นกับหงสาวดีก็กระด้างกระเดื่องเพราะเห็นว่าหงสาวดีไม่มีน้ำยาแล้ว ไม่สามารถเอาชนะไทยได้ ทำให้พระเจ้าหงสาวดีต้องส่งทัพไปปราบปรามจนขาดแคลนคน จึงรับสั่งให้ พระเจ้าแปร ไปกะเกณฑ์ผู้คนตามหัวเมืองมาเป็นกำลัง พระเจ้าแปรไปจัดการตามรับสั่ง แต่เกิดรบกับทัพไทยที่เฝ้ารักษาชายแดนและเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จนฮึกเหิมยกทัพบุกเข้ามามากขึ้น ทำให้สมเด็จพระนเรศวรต้องทรงออกรบ
ในขณะที่สองทัพประจันหน้ากัน สมิงมะตะเบิด ทหารเอกพระเจ้าแปรได้ออกมาท้ารบทหารกรุงศรีฯ แต่ทัพอยุธยาไม่มีใครสามารถสู้สมิงมะตะเบิดได้ซักคน เสมาเลยออกรบ ทั้งรบบนหลังม้าด้วยเพลงทวน และลงมารบพื้นราบด้วยดาบสองมือ จนสามารถตัดคอสมิงมะตะเบิดได้สำเร็จ ทำให้กองทัพไทยมีกำลังขวัญ บุกตะลุยทัพแปรจนแตกพ่ายไป
เสมามีความดีความชอบมาก ได้พ้นโทษและได้ยศเป็น ขุนแสนศึกพ่าย รับใช้สมเด็จพระเอกาทศรถ ทำให้เสมามั่งมีร่ำรวยขึ้นมากจนใช้หนี้ขันได้หมด ในขณะที่พวกขันเริ่มแตกคอกัน เพราะพุฒซึ่งหลงรักดวงแขอยู่ แต่ดวงแขไม่เล่นด้วย ทำให้พุฒผูกใจเจ็บหาว่าขันไม่ยอมช่วยเหลือ ส่วนขันก็เร่งรัดจะแต่งงานกับเรไร แต่ก็เกิดเหตุ ขุนรามป่วยจนเลื่อนไป ทำให้ขันเริ่มระแวงว่าขุนรามเดชะจะไม่อยากได้ตนเป็นเขยเพราะเห็นเสมาร่ำรวยขึ้น จนทั้งสามคนเริ่มมึนตึงใส่กัน
ในขณะที่เรไรรู้เรื่องจากบัวเผื่อนและพันอินว่าเข้าใจเสมาผิดไป และในการรบครั้งล่าสุด เสมายังช่วยชีวิตพ่อของตนด้วย แต่ขุนราม มีทิฐิเลยไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เรไรเลยปรับความเข้าใจกับเสมาได้สำเร็จ แต่เมื่อพ่อแม่รับปากขันแล้ว ตนก็เลยไม่สามารถถอนหมั้นขันได้ เสมาเองก็เข้าใจเลยได้แต่บอกตัวเองว่าตนกับเรไรคงสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่านี้ และพยายามหักใจจากเรไร

ศึกที่ 7
สมเด็จพระนเรศวรต้องการแก้แค้นเมืองละแวก เลยรับสั่งให้พระราชมนูกับเสมาที่เคยพ่ายศึกเมืองละแวก ทำการยกไปตีแก้ตัว ทั้งคู่สามารถตีเมืองละแวกและจับตัวพระยาละแวกมาถวายสมเด็จพระนเรศวรได้สำเร็จ ทำให้พระราชมนูก็เป็นเจ้าพระยามหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหมคุมอำนาจสูงสุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือ แต่ยังไม่ทันที่จะยกทัพกลับ ก็เกิดศึกขึ้นที่เมืองตะนาวศรีตามมาทันที

ศึกที่ 8
พระยาศรีไสยณรงค์ที่ถูกส่งไปปกครองเมืองตะนาวศรีเป็นกบฏขึ้น สมเด็จพระเอกาทศรถเลย ยกทัพไปปราบโดยมีเสมาเป็นทัพหน้า เสมาเลยได้เลื่อนเป็น จมื่นแสนศึกสะท้าน องครักษ์ประจำพระองค์ ทำให้ชีวิตของเสมาดีกว่าเดิมมาก แถมสังกัดสมเด็จพระเอกาทศรถโดยตรง ไม่ต้องมีมูลนายอื่นทำให้มีศักดินามากมายกว่าขุนราม ซึ่งตอนนี้เป็น พระรามเดชะ และมีเงินมากกว่าขันที่เป็น ขุนณรงค์วิชิต หรือพุฒที่เป็น ขุนวิเศษสรไกร
ต่อมาขันได้เลื่อนเป็น หลวงณรงค์วิชิต พุฒเป็น หลวงวิเศษสรไกร ทำให้ทั้งคู่หลงตัวเอง ไม่ยำเกรงขุนรามเหมือนแต่ก่อน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเลวร้ายลงไปอีก ต่างกับเสมาที่รอบคอบสุขุม ไม่บุ่มบ่ามเถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี

ศึกที่ 9
สมเด็จพระนเรศวรมีพระราชดำริจะตีกรุงหงสาวดีคืนบ้าง เพราะตอนนี้กรุงหงสาวดี ไม่เป็นปึกแผ่น แตกแยกกันไปหมด เลยจะยกทัพบุกกรุงหงสาวดีเพื่อเป็นพระเกียรติยศ พระเจ้าตองอูได้ข่าว เลยแกล้งทำเป็นสวามิภักดิ์อยุธยา แล้วเข้าไปจับตัวพระเจ้า หงสาวดีมาที่ตองอูรวมทั้งขนสมบัติ ไพร่พลราษฎรมากมายมาด้วย แล้วเผาหงสาวดีจนราบเป็นหน้ากลอง กว่าสมเด็จพระนเรศวรจะเสด็จไปถึงก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธมาก เพราะตั้งใจจะทำศึกเพื่อเป็นพระเกียรติยศสืบไป แต่พระเจ้าตองอูกลับใช้อุบายหลอกพระองค์แล้วยังเผาเมืองทิ้งอีก
สมเด็จพระนเรศวรเลยสั่งทัพไปบุกตองอูแทน ประกอบกับ ทัพไทยไม่ได้เตรียมเสบียงมาเผื่อตีตองอู เสบียงเลยขัดสนทำให้เสียหายหนักจนต้องยกทัพกลับ และศึกครั้งนี้เอง ที่ขัน พุฒ ทำงานผิดพลาดจนถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตรงข้ามกับเสมาที่ได้ขึ้นเป็น พระยามหาสงคราม ขันได้ก่อเรื่องอีกหลายอย่างแถมยังทำร้ายพี่ชายของขุนรามเดชะเพราะความโกรธด้วย ขุนรามเลยถอนหมั้นขันกับเรไรซะ เสมาเลยได้โอกาสทูลขอเรไรจากสมเด็จพระเอกาทศรถ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันสมกับที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมานาน
หลังจากแต่งงานไม่นาน พันอินทราชซึ่งตอนนี้เป็น หลวงพิมานมงคล ได้เสียชีวิตลงและฝากฝังให้เสมาดูแลศรีเมืองแทนตนด้วย เรไรเลยอนุญาตให้เสมารับศรีเมืองไว้เป็นภรรยาน้อยได้ ส่วนขันกับพุฒก็ทะเลาะกันรุนแรง เพราะพุฒใช้เส้นน้าชายไปสังกัดกรมกองใหม่โดยไม่บอกขัน แม่ของขันทนสงสารลูกไม่ได้ เลยไปขอให้เสมาช่วย เสมาลืมเรื่องเก่าๆ ทำให้ขันซึ้งใจ ยอมรับผิดและทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน

ผ่านมาอีกไม่กี่ปี สมเด็จพระนเรศวรทรงเสด็จสวรรคต ทำให้สมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชย์ เสมา ได้เลื่อนเป็น พระยารามจัตุรงค์ มีชีวิตความเป็นอยู่รุ่งเรืองสุขสบายอยู่หลายปี จนสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จ
สวรรคต เสมาจึงต้องออกจากราชการเพราะ เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ กษัตริย์พระองค์ใหม่ไม่ทรงโปรด แต่ถึงอย่างงั้น เสมาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง จนซึ้งถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และรู้ว่าคนเราในขณะที่มี ชีวิตอยู่ ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด โดยมีความกตัญญูกตเวทีเป็นที่ตั้งของชีวิต

จบบริบูรณ์

ย้อนรอย “ไทย” เป็น “ไท”

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถ่ายทอดโดย ธนากร โปษยานนท์
- สูงใหญ่ ผิวคล้ำ บุคลิกมีอำนาจจนคนต้องหวั่นเกรง
-เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโขทัย (ตำราเก่าถือเป็นราชวงศ์สุพรรณภูมิครับ แต่ตำราใหม่เปลี่ยนเป็นสุโขทัย) ทั้งยังเป็นมหาราชที่กอบกู้เอกราชของชาติไทยด้วย
-พระอุปนิสัย จริงจัง เด็ดขาด เข้มแข็ง แต่ก็ยุติธรรม มีอุดมการณ์ที่จะกอบกู้เอกราช และขยายอาณาเขตให้ กรุงศรีอยุธยา มีฝีมือในการรบทุกศาสตร์ ตลอดจนแตกฉานพิชัยสงคราม โดยทรงปรับปรุงตำราพิชัยสงครามของไทยใหม่ จนใช้มาถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยาทีเดียว

สมเด็จพระเอกาทศรถ ถ่ายทอดโดย รอน บรรจงสร้าง
- ผิวขาว บุคลิกสง่างาม
-เป็นพระราชอนุชาของสมเด็จพระนเรศวร ต่อมาได้เป็นกษัตริย์ต่อจากสมเด็จพระนเรศวร
-พระอุปนิสัยฉลาดหลักแหลม เป็นคู่คิดของสมเด็จพระนเรศวรมาตลอด

แนะนำตัวละคร “ขุนศึก”

เสมา รับบทโดย อธิชาติ ชุมนานนท์
-ชายไทย ล่ำสัน แข็งแรงมาก หน้าตาหล่อเหลา
-ช่วงแรกจะเป็นช่างเหล็กฝีมือดี ยากจน แต่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นทหาร ไปเรียนวิชาการต่อสู้ตลอดจนพิชัยสงครามจากวัดพุทไธสวรรย์ ชำนาญดาบสองมือ รับราชการขึ้นๆลงๆอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดได้เป็นพระยา มีฐานะร่ำรวย
-นิสัยกล้าหาญ แต่มุทะลุบ้าบิ่นไปหน่อย ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดแล้วจะเถียงแบบหัวชนฝาจนหาเรื่องเข้าตัวบ่อยๆ ซื่อสัตย์ ยึดถือความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่มักจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงอยู่ตลอด ทั้งที่ไปชอบเค้า และเค้ามาชอบ จนเกิดปัญหาให้ชีวิตผกผันบ่อยครั้ง

เรไร รับบทโดย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
-แม่หญิงสูงศักดิ์ ผิวขาว สวยมาก หน้าหวาน
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นลูกสาวของขุนรามเดชะ ฐานะค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับรวย
-นิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย รักเดียวใจเดียว แต่ขี้หึง ถือทิฐิรุนแรง แม้จะไม่ค่อยทะเลาะกับใครหนักๆแต่ถ้าโกรธแล้วก็ฝังใจ ไม่อภัยง่ายๆ

ขัน รับบทโดย วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์
-ชายหนุ่ม สูงใหญ่ ล่ำสัน ผิวสองสี หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม
-เป็นทหาร ชำนาญดาบสองมือ พ่อเป็นหลวงแต่เสียชีวิตแล้ว รวยมาก
-นิสัยขี้อิจฉา พาลหาเรื่องเก่ง ผูกพยาบาทจองเวร โลภมากมักใหญ่ใฝ่สูง แม้จะโมโหร้าย แต่พอคับขันก็ขี้ขลาดไม่ใช่คนกล้าหาญอะไรมาก

ดวงแข รับบทโดย พรชิตา ณ สงขลา
-แม่หญิง ผิวสองสี สวยมาก แต่หนักไปทางสวยคมต่างจากเรไรที่สวยหวาน
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นเพื่อนเรไร น้องสาวขัน อยู่เป็นโสด ไม่ยอมแต่งงานกับใครเลย
-นิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย รักเดียวใจเดียว และเป็นคนเดียวที่ไม่แต่งงานกับใคร แต่บางครั้งก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ น้ำนิ่งไหลลึก ฉลาดกว่าที่เห็นภายนอกมาก แอบชอบเสมาอยู่

สมบุญ รับบทโดย เกียรติกมล ล่าทา
-ชายหนุ่ม ตัวเล็ก แต่ล่ำสันแข็งแรง หน้าตาธรรมดา
-เป็นทาสของรามเดชะ ต่อมาเสมาสอนดาบให้เลยไปเป็นทหารทำให้ได้ไถ่ตัวออกไป ติดตามเสมาตลอดจนเป็นถึงหลวงชำนาญดาบสองมือ
-ซื่อสัตย์ ใจเย็น รักสนุกเฮฮาไปเรื่อย ช่างนินทาสอดรู้สอดเห็น

สิน รับบทโดย โกสินทร์ ราชกรม
-ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ ล่ำสันแข็งแรง หน้าตาธรรมดา
-เป็นทหารอาสาวิเศษไชยชาญ รู้จักกับเสมาและได้เสมาสอนวิชาให้จนเป็นถึงหลวง ชำนาญทวน
-เป็นคนมุทะลุ บ้าบิ่น เอะอะโวยวาย รักสนุกชอบกินเหล้า และชอบเถียงเอาชนะจนน่ารำคาญทั้งๆที่ไม่มีสาระอะไร แต่ซื่อสัตย์มาก ตอนหลังแต่งงานกับเอื้อยแตง กลัวเมียมาก

เอื้อยแตง รับบทโดย มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
-แม่หญิง ผิวขาว สวย ตัวเล็กแต่คล่องแคล่วว่องไว
-เป็นแม่ค้าขายเหล็ก เป็นเพื่อนสนิทกับจำเรียง ยากจน ตอนหลังแต่งงานกับสิน
-เป็นคนจิตใจดี พูดเก่งมากเพราะเป็นคนค้าขายมาก่อน ด่าเป็นไฟแลบ งกเค็ม แอบรักเสมาอยู่

รามเดชะ รับบทโดย นิรุตติ์ ศิริจรรยา
-นายทหาร สูงใหญ่ ล่ำสัน ผิวสองสี หน้าตาดูเคร่งเครียดตลอดเวลา
-เป็นทหาร เป็นพ่อเรไร ฐานะค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับรวย
-เป็นคนรักหน้ามาก เจ้าอารมณ์ หูเบา ลำเอียง แต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรมาก

พันอิน รับบทโดย สรพงศ์ ชาตรี
-เป็นทหารฝ่ายจัดหาอาวุธ เป็นเพื่อนสนิทกับรามเดชะและมั่น เป็นพ่อบุญธรรมของเสมา ศรีเมือง
-เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ถือสาเรื่องประเพณีมาก ใจเย็นไม่ค่อยโกรธใคร

พุฒ รับบทโดย วรรธนะ กัมทรทิพย์
-ชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสะโอดสะอง
-เป็นทหาร ชำนาญกระบี่ เป็นเพื่อนรักกับขัน ฐานะปานกลาง
-นิสัยเหมือนขัน แต่เจ้าเล่ห์โหดเหี้ยมกว่า เป็นคนคอยออกอุบายต่างๆให้ขัน

จำเรียง รับบทโดย ภัทรินทร์ เจียรสุข
-แม่หญิง สวย คม เป็นน้องสาวของเสมา
-เป็นข้าหลวงในวังเหมือนเรไร แต่ฐานะต่ำกว่า เพราะไม่มีเงินเลยไปทำงานเป็นข้าหลวง ทำให้ไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นพิเศษ
-ชอบคนประจบ หูเบา ฟุ้งเฟ้อ ช่วงแรกจะดูถูกเสมามากเพราะเห็นว่าพี่เป็นคนไม่ได้เรื่อง พอตกไปเป็นทาสเพราะโดนคนที่ตนรักอย่างขันหลอก เลยได้สำนึก ตอนหลังแต่งงานกับสมบุญ

ศรีเมือง รับบทโดย อรุณณภา พาณิชจรูญ
-แม่หญิง ผิวขาว ค่อนข้างอวบเล็กน้อยแต่ไม่อ้วน สวยหวาน
-เป็นลูกบุญธรรมของพันอิน เป็นภรรยาน้อยของเสมา โดยพันอินฝากฝังไว้กับเสมาก่อนตาย
-นิสัยเรียบร้อย เป็นแม่เหย้าแม่เรือน แต่อ่อนแอไม่ค่อยกล้าทะเลาะอะไรกับใคร แอบรักเสมาอยู่

บัวเผื่อน รับบทโดย เพชรดา เทียมเพ็ชร
-แม่หญิง ผิวขาว หน้าตาดีแต่ไม่ถึงกับสวย
-เป็นข้าหลวงอยู่ในวัง เป็นเพื่อนเรไร ดวงแข รวย ตอนหลังแต่งงานกับขัน
-เป็นคนพูดมาก ช่างนินทา หลงรักพุฒจนทำได้ทุกอย่างแม้แต่ทรยศเพื่อน หยิ่งยโสดูถูกคนที่ต่ำกว่า

ลำภู รับบทโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
-เป็นแม่เรไร ภรรยารามเดชะ
-เป็นคนชอบคนประจบ รักลูกมาก แต่ค่อนข้างดูถูกคนที่ด้อยกว่าตน

มั่น รับบทโดย สุเชาว์ พงษ์วิไล
-เป็นช่างตีเหล็กฝีมือดี เป็นพ่อเสมา ยากจน
-นิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ค่อนข้างขี้กลัว ไม่อยากมีเรื่องกับใคร มีปมด้อยเรื่องที่พ่อตัวเองเป็นทหารชื่อขุนชำนะ พลแสน แต่พอกรุงแตกต้องกระจัดกระจาย ตนตกอับต้องมาเป็นช่างตีเหล็ก แต่ได้วิชาตีดาบจากพ่อเลยเลี้ยงชีวิตได้ เพราะปมตรงนี้เลยเอาเสมาไปฝากที่วัดตั้งแต่เล็ก เพื่อเรียนวิชาการรบ ด้วยความหวังว่าเสมาจะกอบกู้ชื่อเสียง วงศ์ตระกูลให้

บุญเรือน รับบทโดย ดวงใจ หทัยกาญจน์
-เป็นแม่เสมา จำเรียง
-รักลูกสาวมากกว่าลูกชาย อคติกับเสมาตลอด จนถูกขันหลอกเลยสำนึกได้ แต่ก็เสียใจที่จำเรียงต้องไปเป็นทาส จนตรอมใจตาย

แต้ม รับบทโดย ไชย ขุนศรีรักษา
-เป็นพ่อเอื้อยแตง ค้าขายเหล็ก ช่วงแรกจะจน แต่พอเจอรามเดชะและจำกันได้ว่าเป็นพี่แท้ๆของรามเดชะเลย สบายขึ้น
-พูดเก่งจนน่ารำคาญ ชอบป้อยอคนมีอำนาจ และดูถูกคนจนด้วยกัน แต่ก็มีน้ำใจพอใช้ได้

อำพัน รับบทโดย โฉมฉาย ฉัตรวิไล
-เป็นแม่ขัน เป็นม่าย รวยมาก
-เป็นคนรักลูกมาก แต่ก็ยุติธรรมไม่ได้เข้าข้างลูกทุกเรื่อง เรียบร้อย ไม่ค่อยมีปากเสียงกับใคร

ตัวละครพิเศษ

พระราชมนู รับบทโดย ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์
- สูงใหญ่ ผิวขาว เข้มแข็งสมเป็นทหาร
-เป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร
-นิสัยซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา มีฝีมือการรบเก่งกาจมาก ตลอดจนเจนจบตำราพิชัยสงคราม ภายหลังได้เป็นเจ้าพระยา มหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหม มีอำนาจควบคุมหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด ถือเป็นผู้มีอำนาจอันดับสามในสมัยนั้นเลยทีเดียว

พระยาศรีไสยณรงค์ รับบทโดย กรกฏ ธนภัทร
- ผิวขาว บุคลิกองอาจสมเป็นทหาร
-เป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร ร่วมรบกับสมเด็จพระนเรศวรมาตลอดเช่นเดียวกับพระราชมนู แต่ภายหลังก่อกบฏ ซึ่งแม้แต่สมเด็จพระนเรศวรเองก็ยังไม่อยากทรงเชื่อว่าจะเป็นจริง

จมื่นศรีสรรักษ์ รับบทโดย ฐากูร การทิพย์
-ชายหนุ่ม อายุ 17 สูง ล่ำสัน ท่าทางองอาจมีความมั่นใจในตนเองสูงมาก
-เป็นบุคคลสำคัญปลายสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ เพราะพอสมเด็จพระเอกาทศรถสวรรคต เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ ขึ้นครองราชย์ จมื่นศรีสรรักษ์ก็ก่อการกบฏ ปลงพระชนม์เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ และอัญเชิญพระพิมลธรรมอนันตปรีชา ลาผนวชมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าทรงธรรมต่อไป หลังจากพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต จมื่นศรีสรรักษ์ก็กบฏอีกและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าปราสาททอง พระราชบิดาของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยในเรื่องขุนศึกจะมีบทบาท อยู่เล็กน้อยตอนท้ายเรื่อง

พระครูขุน รับบทโดย อิทธิฤทธิ์ สิงหรัตน์
-ชาย อายุประมาณ 50
-เป็นพระภิกษุ เป็นอาจารย์ของเสมา จำวัดอยู่ที่วัดพุทไธสวรรย์ ก่อนบวชเป็นแม่กองอาทมาต (กองอาทมาตคือ หน่วยรบพิเศษ ซึ่งคนจะเป็นได้ต้องเชี่ยวชาญทุกศาสตร์การรบ ซึ่งเป็นยากมาก)

พระเจ้านันทบุเรง รับบทโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
-เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงหงสาวดี เพราะความระแวงเลยส่งคนไปลอบสังหารสมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรประกาศเอกราช และทำสงครามกันเรื่อยมา จนถูกพระสังกทัตโอรสพระเจ้าตองอูวางยาพิษ

พระมหาอุปราชา รับบทโดย อดิศร อรรถกฤษณ์
-เป็นพระราชโอรสและรัชทายาทของพระเจ้านันทบุเรง ได้ทำศึกกับพระนเรศวรหลายครั้งจนถึงยุทธหัตถี มีพระอุปนิสัยเป็นนักรบและถือขัตติยะมานะ

พระเจ้าเชียงใหม่ รับบทโดย สุรจิต บุญญานนท์
-เป็นพระราชอนุชาของพระเจ้านันทบุเรง ทำศึกกับไทยในช่วงแรกๆและภายหลังมาอ่อนน้อมเป็นเมืองขึ้น

พระวิสุทธิกษัตรีย์ รับบทโดย พิศมัย วิไลศักดิ์
พระมหาธรรมราชา รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล
พระยาพิชัยสงคราม รับบทโดย พงศนารถ วินศิริ
สมเด็จพระนพรัตน์ รับบทโดย ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง
พันจิตรเสน่หา รับบทโดย ดนัย จารุจินดา
อาจารย์บ่าย รับบทโดย พงศภัค อุบล
ขุนจำนง รับบทโดย อติเทพ ชดช้อย
พระเจ้าแปร รับบทโดย โชคชัย บุญวรเมธี
สมิงโยคราช รับบทโดย วัชรชัย สุนทรศิริ
แม่ทัพพม่า รับบทโดย เอก ธนากร
สมิงมะตะเบิด รับบทโดย ธนาวุฒิ เกสโร
นันทะกะยอสู รับบทโดย วัชรชัย สุนทรศิริ
ไชกะยอสู รับบทโดย เขมชาติ โรจนะหัสดิน
พิณ รับบทโดย ภาวิณี วัฒน์รณชัย


Whoever know Thai very well then just just translate for us to understand.
Woah, that is long. I used google translate & it was just telling about the 6 battles that they are going to go through.
 

yer_moua

sarNie Hatchling
เป็นบันทึกสั้นๆ ซีนน่ารัก เท่ห์ๆของสมบุญครับ


ยามนั้นสมบุญเดินถือกระจาดใส่มีด ใส่หัวจอบเสียม เข้ามาหาเอื้อยแตง เสมาฉุกคิดได้ว่าใครเป็นคนคาบข่าวมาบอก เขาจะเข้าไปจัดการกับสมบุญ แต่เสียงเอื้อยแตงกรีดร้องดังขึ้นเสียก่อน

สองหนุ่มรีบรุดไปดูเห็นลูกน้องพุฒกำลังจับมือถือแขนลวนลามเอื้อยแตงอยู่ในร้านเหล้า โดยมีพุฒนั่งดื่มเหล้าหัวเราะชอบใจอยู่ เอื้อยแตงร้องให้เสมาช่วย เสมาไม่รอช้าโดดเข้าไปกลางวงช่วยเอื้อยแตงออกมา แล้วเตรียมรับมือกับพุฒและลูกน้อง พุฒประกาศตัวว่าตนเป็นทหารหลวงหวังให้เสมาเกรงกลัว เสมารีบสวนกลับว่าตนก็เป็นทหารหลวงเช่นกันพลางถามกลับว่า พุฒสังกัดกรมกองใด

“ลวนลามหญิงกลางวันแสกๆต่อหน้าคนทั้งตลาด พวกมึงยังกล้าอวดอ้างเป็นทหารหลวงอีกรึ ถุย เป็นชายยังไม่ควรเลย” สมบุญเข้ามาเคียงข้างเสมา


 
Top