jaimie said:
I usually don't watch chakrit 's lakorn except for the one with noon but still didn't like him, even though he is a good actor.I decided to watch this one cuz i like pinky.To tell u the truth , i actually like him and this lakorn.They r both so cute .
[post="62582"][/post]
Me too i did not watch much of his lakorn but after i checked out the first episode and the preview of this lakorn..Gotta say that i cannot wait to see the next episode and more....Like pinky too...She seems to grow up so fast and so much more beautiful..and chakrit and pinky seem to make a really really cute couple in this one....
Ah i found the news of this lakorn in Dailynews so i post for u guys ..too...
‘ชาคริต’ อินจัดเลิฟซีน ‘พิ้งค์กี้’ เพลิน ‘ท็อป’ ทุ่มควงปืนวางมาดตำรวจเข้ม
เบิกฤกษ์ละครปีใหม่ด้วยละครสนุกสนานแนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่ “คดีเด็ดเหตุแห่งรักâ€? ผลงานของผู้จัดฯ 559 ออนแอร์ ละครแนวถนัดของ เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย ซึ่งเคยเรียกเรตติ้งให้ ช่อง 7 สี กระฉูดมาแล้ว
“คดีเด็ดเหตุแห่งรักâ€? ที่หยิบจากบทประพันธ์ของ สิรินดา รับหน้าที่เขียนบทโทรทัศน์โดย สรรพชัญ เกิดอุทัย กำกับการแสดงโดย ปัญญา ชุ่มฤทธิ์ แถมยังได้พระ-นางสุดฮอตของช่องอย่าง ชาคริต แย้มนาม มาประกบกับนางเอกรุ่นน้อง พิ้งค์กี้-สาวิกา ไชยเดช ครั้งแรกอีกด้วย ร่วมด้วยนักแสดงฝีมืออีกหลายคน
ในส่วนของการทำงานของพระเอก-นางเอกจะเป็นอย่างไร ต้องมาฟังจากปากพวกเขาเอง เริ่มต้นด้วยพระเอกหนุ่ม ชาคริต ที่ต้องมารับบทเป็น “นวีร์â€? ชายหนุ่มรูปหล่อ เจ้าของรีสอร์ตที่เป็นคนรักสงบ ชอบสันโดษ รักอิสระ มีความมั่นใจในตัวเอง สูง แต่จะเอาแต่ใจในบางครั้ง ไม่ค่อยเก็บความรู้สึก แต่ก็ใจกว้าง มีน้ำใจ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
“รับบทเป็น นวีร์ เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเจ้าของรีสอร์ตเล็ก ๆ ทางใต้ครับ และมีอาชีพเป็นนักเขียนนวนิยายอีโรติก แต่จะใช้นามแฝงและส่งต้นฉบับไปขายที่ต่างประเทศ ซึ่งทั้งสองอาชีพนี้ไม่ค่อยมีใครรู้ นอกจากแม่และน้องสาวเท่านั้น คาแรกเตอร์ของผมจะเป็นผู้ชายธรรมดา ชอบใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเงียบ ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร วัน ๆ ก็คอยดูแลความเรียบร้อยของรีสอร์ต และก็นั่งเขียนนวนิยายไปเรื่อย ๆ เป็นคนตรงพูดจาไม่อ้อมค้อม แอบเจ้าชู้ นิด ๆ น้อยใจหน่อย ๆ ส่วนฉากที่ประทับใจ น่าจะเป็นฉากที่นางเอกฆ่าตัวตาย แต่ผมไปช่วยไว้ทัน รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติดีไม่มากจนเกินไป มันให้อารมณ์ที่สมจริง น้องเขาและผมทุ่มเทเต็มที่ ฉากนั้นหนาวมาก เพราะลงทะเลไปคว้าตัวนางเอกขึ้นมา และมาทะเลาะกันริมหาด อารมณ์ในตอนนั้นทั้งโกรธและเป็นห่วงมาก เรื่องนี้ผมได้ร่วมงานกับน้องพิ้งค์กี้ ก็ดีครับ น้องเขาเก่งมาก โดยเฉพาะฉากร้องไห้พอผู้กำกับสั่งให้ร้องไห้ แค่ตอนซ้อมเขาก็ตาแดงน้ำตาจะไหลอยู่แล้ว และก็ให้ความเป็นกันเองดีอยู่ในกองถ่ายคุยกันสนุกสนาน ไม่ใช่แค่ พิ้งค์กี้ นะ กับ ท็อป, ก้อย, มาร์ช ก็มีเรื่อง ฮา ๆ มาเล่าตลอดครับâ€?
ด้านนางเอกของเรื่อง สาวพิ้งค์กี้ รับบทเป็น “สนิสาâ€? สาวจิตใจดี แต่ด้วยคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติ เหตุ ทำให้เธอต้องรับภาระส่งเสียดูน้องชาย มีความรับผิดชอบเกินตัว ส่วนการทำงานในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร สาวพิ้งค์กี้เผยว่า “เรื่องนี้แสดงเป็นนักแสดงที่กำลังมีชื่อเสียง แต่ต้องหนีคดียาเสพติดที่ตัวเองไม่ได้ทำ หนีไปอาศัยอยู่กับพระเอก ซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิท แต่ใจก็เป็นห่วงน้องชายที่โดนจับตัวไป ถ้าดูภายนอกแล้วเป็นคนที่เข้มแข็งเพราะตั้งแต่พ่อแม่เสียไปก็ต้องหยุดเรียนออกมาทำงาน ส่งน้องเรียนแต่เขากลับมาติดยาก็พยายามทำทุกวิถีทางให้เขากลับมาเป็นคนดีให้ได้ นับว่าละครเรื่องนี้ยากมาก เพราะต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน เป็นแนวโรแมนติกดราม่าเรื่องแรกที่เล่น และดีใจมากที่ได้ทำงานกับพี่เจี๊ยบ, พี่คริต รวมทั้งนักแสดงอาวุโสด้วยค่ะ เรื่องนี้ต้องมาเจอกับพี่ชาคริตเป็นครั้งแรกด้วย ก็ดีใจที่ได้ทำงานกับพี่คริต พี่เขาเป็นพระเอกที่มีสปิริตมาก มีความเป็นนักแสดงสูง แรก ๆ ที่เข้าฉากด้วยกันก็จะเกร็ง ๆ โดยเฉพาะฉากกุ๊กกิ๊กจะเขินมาก ๆ ถึงตอนนี้ก็ยังเขินอยู่เลยค่ะ อีกอย่างเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายกันที่ทะเล ชอบค่ะ ทีมงานก็สนุกสนาน มีเรื่องขำ ๆ ฮา ๆ ทั้งวัน อย่างวันที่ไปถ่ายในตลาดที่สัตหีบ เป็นตอนที่ต้องวิ่งหนีโจร วันนั้นอากาศร้อนมากและต้องวิ่งร้อยเมตรมีคนขวางตลอดทาง แถมรองเท้าขาดอีกต่างหาก ก็ต้องเทคแล้ววิ่งใหม่ จะบอกว่าเรื่องนี้กี้วิ่งจนรองเท้าขาดไปแล้ว 5 คู่ ฉากนี้กว่าจะถ่ายทำกันเสร็จก็วิ่งจนเหนื่อยและตื่นเต้นมาก ๆ ตอนวิ่งตัดหน้ารถกลางถนน เรียกว่าทั้งเหนื่อยทั้งขำค่ะâ€?
คราวนี้มาลองฟังบรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายทำกันต่อ แม้จะเป็นละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ก็ตาม แต่แฝงอารมณ์ไว้หลายรสชาติ ออกอารมณ์บู๊นิด ๆ แบบฮาปนเหนื่อย ในส่วนของการทำงานทีมงานต้องยกทีมไปปักหลักที่ทะเล แถมช่วงที่ถ่ายทำยังเป็นหน้าฝนอีกด้วย อุปสรรคหลัก ๆ จึงหนีไม่พ้นเรื่องของดินฟ้าอากาศ ที่ตกทั้งวันทั้งคืน กว่าจะเสร็จก็เหนื่อยกันถ้วนหน้า ด้านความสนิทของนักแสดงในเรื่องเป็นไปอย่างสนุกสนาน เพราะแต่ละคนวัยค่อนข้างใกล้เคียงกัน เวลาอยู่ในกองถ่ายเลยคุยถูกปากกันอย่างมาก
สำหรับฉากที่น่าติดตามคงหนีไม่พ้นฉากกุ๊กกิ๊ก เมื่อ หนุ่มชาคริต ต้องเข้าฉากเลิฟซีนเกือบทั้งเรื่องกับ สาวพิ้งค์กี้ แต่ละฉากกว่าจะผ่านไปได้ เล่นเอาทั้งทีมงานและผู้กำกับฯลุ้นจนเหนื่อย เพราะ ชาคริต กับ พิ้งกี้ ที่ต้องสวีทหวานกันทั้งเรื่อง ช่วงแรกฝ่ายหญิงสาวก็ต้องเขินเป็นธรรมดา แต่ไป ๆ มา ๆ ช่วงหลัง ๆ คนที่เขินกลับเป็น ชาคริต เสียเอง งานนี้ไม่รู้อินแบบหลงรักนางเอกไปอีกหรือเปล่า ที่แน่ ๆ เวลาเข้าฉากเลิฟซีน หนุ่มชาคริต เป็นต้องแถมหอมแก้ม พิ้งค์กี้ฟอดใหญ่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกทีเลย อย่างนี้เรียกว่านอกบทหรือเปล่าเนี่ย!
ด้านฉากบู๊ต้องยกให้ หนุ่มท็อป-พิพัฒน์ ที่ต้องมาแสดงเป็นตำรวจหนุ่ม จับมือแอ๊คชั่นกับคนร้าย ลำพังท่าจับปืนวางมาดตำรวจจับผู้ร้ายไม่เท่าไหร่ แต่พอให้แอ๊คชั่นท่าทางตีลังกากลับหลัง เล่นเอาหนุ่มท็อปถึงกับเครียด เพราะตีเท่าไหร่ก็ตีไม่ได้ จนพอถ่ายจริงเจ้าตัวก็ทำได้เฉยเลย ทุกอย่างเลยผ่านไปอย่างราบรื่น
ติดตามฉากขำ ๆ ได้ในละครเรื่อง “คดีเด็ดเหตุแห่งรักâ€? จะออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 7 สี.
ไปรมา : รายงาน